List of content
EA กับ AI คืออะไร? เหมือนหรือแตกต่างกันหรือไม่ และใช้ในวงการเทรดอย่างไร
เมื่อพูดถึงเรื่องของโปรแกรมเทรดในวงการ Forex นั้น หลายคนคงจะคุ้นเคยกับเครื่องมือในการช่วยเทรดอย่าง Indicator หรือค่าเฉลี่ยทางคณิตศาสตร์ที่มีส่วนช่วยวิเคราะห์กราฟราคาให้เทรดเดอร์ รวมถึงเครื่องมือเทรดอัตโนมัติที่รู้จักกันดีอย่าง EA โดยในบทความก่อนหน้านี้เคยอธิบายถึง EA Forex ไปบ้างแล้ว แต่ในบทความนี้จะแตกต่างกันออกไป เพราะเรื่องที่จะนำเสนอวันนี้มีการกล่าวถึง AI ด้วยครับ
บทความนี้จะพาทุกท่านไปหาคำตอบกันว่า EA และ AI คืออะไร? มีข้อดีและข้อเสียหรือไม่? แล้วเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร? เพื่อให้ทุกท่านเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้นครับ
ขั้นแรกเลยมาทำความรู้จักกับความหมายของคำว่า EA กันก่อน EA (Expert Advisors) หรือที่เราเรียกกับแบบง่าย ๆ ว่า Bot Trade เป็นโปรแกรมที่ช่วยในการเทรดอัตโนมัติให้กับเทรดเดอร์ ซึ่งจะทำงานเหมือนกับเรามานั่งเทรดเองตามกลยุทธ์ต่าง ๆ ที่เทรดเดอร์ได้ออกแบบ EA นั้นไว้ โดยข้อดีและข้อเสียของ EA มีดังนี้
ข้อดีของ EA |
การเทรดของ EA สามารถออกคำสั่งซื้อขายแทนเราได้ จึงเหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาเฝ้าหน้าจอ รวมทั้งนักลงทุนที่เทรดยังไม่ชำนาญสามารถให้ EA ช่วยเทรดแทน โดยกำไรที่ได้จาก EA จะขึ้นอยู่กับ EA แต่ละประเภท |
ข้อเสียของ EA |
การใช้ EA เข้ามาช่วยในการเทรดก็ยังมีความเสี่ยง เพราะการตัดสินใจออกคำสั่งของ EA นั้นจะขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ที่เทรดเดอร์ตั้งไว้ โดยแต่ละเงื่อนไขจะไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เช่น หากเราบอกว่ารูปหมาคือสัตว์ที่มีหู, ปาก และตา เราเอารูปแพะใส่ ซึ่งมีหู, ปาก, ตา แต่มีเขาเพิ่มเข้ามา EA จะบอกว่าไม่ใช่หมา แต่ถ้าใส่รูปแมวเข้าไปมันอาจบอกว่านี่เป็นรูปหมาได้ ถึงแม้ว่าเราจะบอกว่าข้อมูลผิด แต่ EA จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงคำตอบในครั้งถัดไป เพราะระบบ EA นั้นไม่ได้มีการเรียนรู้ซึ่งเป็นเพียงระบบที่ถูกป้อนข้อมูลไว้เท่านั้น |
ก่อนหน้านี้เราได้พูดถึงความหมายของ EA ไปแล้ว ต่อมาไปทำความรู้จักกับความหมายของ AI กันบ้าง AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ หมายถึงเทคโนโลยีทางปัญญาที่สามารถเรียนรู้ได้เอง โดยการเขียนโปรแกรมของ AI นั้นขึ้นอยู่กับการเขียนโปรแกรมและอัลกอริทึมที่ถูกคิดค้นขึ้น ซึ่งการเขียน AI มักนิยมเขียน 2 ภาษาด้วยกันคือ Python และ R
ในปัจจุบัน AI ได้ถูกนำมาใช้อย่างหลากหลาย เช่นวงการการแพทย์, การลงทุน และอุตสาหกรรมการผลิต ฯลฯ ซึ่ง AI ในการลงทุนนั้นมีข้อดีและข้อเสีย ดังนี้
ข้อดีของ AI |
เนื่องจาก AI สามารถเขียนโปรแกรมได้เอง ทำให้ AI ไม่ใช้อารมณ์ในการเทรด รวมทั้งยังช่วยหาราคาและจังหวะในการซื้อขายได้อย่างเหมาะสม ซึ่งระบบการทำงานของ AI ในการลงทุนนั้นจะขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของนักลงทุนที่ตั้งไว้ตามลักษณะของตลาดที่แตกต่างกัน |
ข้อเสียของ AI |
แม้ว่า AI จะช่วยคาดการณ์จังหวะการซื้อขายในตลาดได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะถูกต้องและแม่นยำ 100% เพราะแต่ละตลาดสามารถผันผวนได้ในปัจจัยที่แตกต่างกัน เช่น ภัยพิบัติ, การเมือง และเศรษฐกิจ ทำให้ AI ไม่สามารถวิเคราะห์ปัจจัยที่เกิดขึ้นได้ทั้งหมด |
สำหรับ EA และ AI นั้นมีความแตกต่างกันเพราะ EA เป็นโปรแกรมที่ถูกเขียนขึ้นมาเพื่อช่วยในการเทรดอัตโนมัติเท่านั้น และ EA ไม่สามารถทำได้ถึงขนาดวิเคราะห์ตลาดต่าง ๆ ได้
แตกต่างกับ AI ที่สามารถทำได้เนื่องจาก AI นั้นสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเอง จึงถูกนำมาใช้กับกับอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลายมากกว่า รวมทั้ง AI มีการเรียนรู้ถึง 3 ระดับ ได้แก่
1. Supervised Learning (การเรียนรู้แบบมีผู้สอน)
หมายถึงการใส่ข้อมูลและผลลัพธ์ลงไปในฐานข้อมูล เพื่อให้เทคโนโลยีเรียนรู้ข้อมูลและคาดคะเนผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น โดยการเรียนรู้ลักษณะนี้จะถูนำมาใช้กับการคาดคะเนค่าเงินหรือวิเคราะห์ยอดขายของสินค้า เป็นต้น
2. Unsupervised Learning (การเรียนรู้โดยไม่มีผู้สอน)
หมายถึงการใส่ข้อมูลลงไปในฐานข้อมูล แต่ไม่ได้กำหนดเป้าหมายของข้อมูล เพื่อให้เทคโนโลยีไปวิเคราะห์และจำแนกข้อมูลเอง เช่น การแนะนำวิดีโอในยูทูป หรือการแนะนำผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เป็นต้น
3. Reinforcement Learning (การเรียนรู้แบบลองผิดลองถูก)
หมายถึงการเรียนรู้จากสถานการณ์ที่ถูกจำลองขึ้นมาหรือการใส่ข้อมูลในอดีตเข้าไป เพื่อช่วยให้ระบบสามารถจัดการข้อมูลให้ดียิ่งขึ้น เช่น การนำเสนอข้อมูลเพื่อช่วยในการตัดสินใจเลือกสินทรัพย์ เป็นต้น
ภาพข้างต้นได้แบ่งสถานการณ์ออกเป็น 2 กลุ่มคือ
- สถานการณ์แบบ "ปกติ"
- สถานการณ์แบบ “การเกิดทรนด์”
ซึ่ง EA มักจะตั้งเงื่อนไขให้ Stochastic อยู่ต่ำกว่า Oversold Level ประมาณ 20 แล้วตัดขึ้นมาดังตัวอย่างที่แสดงในวงกลมสีแดง การเทรดแบบ EA จะไม่มีปัญหาในวงกลมสีแดงของวงกลมที่ 1, 2 และ 4 ตรงข้ามกับวงกลมเล็กที่ 3 ที่มีปัญหาเพราะว่าไม่ได้เปิดคำสั่งเทรดให้แน่นอน ส่วนในวงกลมสีเหลืองนั้น การเทรดของ EA กำลังเผชิญกับภาวะขาดทุน ซึ่งส่วนนี้เองที่เป็นจุดสังเกตให้กับความแตกต่างของ EA และ AI ครับ หากเปรียบเทียบภาพการเทรดให้เห็นชัดที่สุดนั้น EA คือการเทรดจากเงื่อนไข ส่วน AI คือการเทรดจากประสบการณ์
ถ้าเป็น EA รอบแรกที่ขาดทุนนั้น รอบต่อไปก็จะขาดทุนซ้ำ ๆ อยู่เช่นเดิม แต่ถ้าใช้ระบบ AI ในการเทรดแล้วละก็ เมื่อถึงออเดอร์ขาดทุน ครั้งต่อ ๆ ไป AI จะไม่ทำแบบเดิม โดยมันจะปรับเปลี่ยนไปตามระบบ ยกตัวอย่างเช่น Unsupervised Learning (การเรียนรู้แบบไม่มีคนสอน) จะจัดกลุ่มกราฟขึ้นมา แล้วประเมินว่าลักษณะนี้เป็นแบบใด จากนั้นสามารถจัดการได้อย่างไร เมื่อเกิดข้อผิดพลาดขึ้นก็จะหาวิธีจัดการกับแพทเทิร์นของกราฟนั้น ๆ ครับ
เพราะฉะนั้นเทรดเดอร์ท่านไหนก็ตามที่อ่านบทความนี้แล้วไปเจอพ่อค้าขาย EA โดยการโฆษณาบอกว่ามีการวิจัยด้าน Robot Trade หรือทำการวิจัยเรื่อง EA รวมทั้งมีระบบของตัวเองเป็น AI แล้วล่ะก็ควรใช้วิจารณญานอย่างรอบคอบ และพึงระวังให้ดีครับ เพราะเรื่องพวกนี้นั้นยังคงต้องใช้เวลาเป็นอย่างมากครับ
หลายคนอาจเกิดคำถามว่า เราสามารถนำ AI มาช่วยเทรด Forex แทน EA ได้หรือไม่? คำตอบ คือ อาจจะเป็นไปได้และไม่ได้ครับ เพราะเทคโนโลยีในปัจจุบันค่อนข้างก้าวหน้ามาก อย่างที่เราเห็นว่า การค้นหาคำตอบ, การเขียนบทความ, การเขียนโปรแกรม หรืออุตสาหกรรมอื่น ๆ ก็มี AI เข้ามามีบทบาทค่อนข้างมาก ดังนั้น ในอนาคตเราอาจจะสามารถใช้ AI เทรดแทน EA ได้ครับ แต่อย่างไรก็ดี AI ก็ยังมีข้อจำกัดเช่นกัน เพราะอารมณ์และเทรนด์ในตลาดที่เกิดขึ้นส่วนมากมาจากมนุษย์ ดังนั้น การตัดสินใจต่าง ๆ ของ AI จึงอาจจะไม่แม่นยำนัก แต่ภายใต้ข้อจำกัด AI ก็มีข้อดี คือ การเรียนรู้ฐานข้อมูลอันมากมายมหาศาลได้ครับ ซึ่งด้วยเหตุนี้เอง มันอาจจะทำให้หน่วยงานกำกับดูแลเข้ามาควบคุมการใช้ AI เพื่อทำการเทรด เพราะหากใคร ๆ ก็สามารถใช้ AI เทรดได้กำไรอย่างมหาศาล มันก็จะสร้างความปั่นป่วนในโลกการเงินได้นั่นเองครับ
1. EA Forex มีกี่ประเภท?
► EA Forex มี 2 ประเภท คือ EA Forex แบบฟรี และ EA Forex แบบมีค่าใช้จ่าย
2. EA Forex ช่วยให้ทำกำไรได้จริงหรือไม่?
► การใช้ EA ในการเทรด Forex เป็นการนำเทคโนโลยีเพื่อเข้ามาช่วยให้เทรดเดอร์สะดวกสบายขึ้นเท่านั้น แต่ผลกำไรและขาดทุนยังขึ้นอยู่กับตัวของเทรดเดอร์เอง อีกทั้ง ผลงานในอดีตยังไม่สามารถการันตีผลตอบแทนในอนาคตได้ ดังนั้น มันจึงมีทั้งโอกาสได้กำไรและขาดทุน
3. EA Forex ดีอย่างไร?
► EA Forex มีข้อดี คือ ช่วยให้เทรดเดอร์ย่นระยะเวลาในการเฝ้าหน้าจอ เพราะสามารถเปิดหรือปิดออเดอร์โดยอัตโนมัติ ซึ่งหากใช้งานร่วมกับ VPS ก็จะทำให้ EA ทำงานได้ตลอดเวลา เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่เทรดเดอร์
สรุป
สุดท้ายนี้ EA และ AI นั้นมีส่วนช่วยในการเทรดให้มีความสะดวกยิ่งขึ้น โดยเทรดเดอร์ไม่จำเป็นต้องนั่งเทรดตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตามแม้ว่า EA และ AI เข้ามาเป็นเครื่องมือเสริมในการเทรด แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าการลงทุนจะไม่มีความเสี่ยงครับ ฉะนั้นแล้วนักลงทุนควรศึกษาพฤติกรรมของราคาสินทรัพย์ให้ดีก่อนตัดสินใจทำการลงทุนทุกครั้ง
หากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม
สามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับ Forex ได้ทางเว็บไซต์ www.thaiforexreview.com
ติดตามความเคลื่อนไหวและการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก Thaiforexreview
ติดตามข่าวสารการลงทุนและบทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์ได้ที่ Forex Analysis
อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ Blogs
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมได้ที่ Top Brokers