List of content
เตือนก่อนเทรด! กองทุน Forex (Prop Trade) คืออะไร? เสี่ยงจริงไหม?

เมื่อปี 2023 เคยมีข่าวใหญ่สะเทือนวงการเทรดเดอร์ เมื่อ My Forex Funds (MFF) กองทุน Forex ชื่อดังถูกระงับการใช้งานจากปัญหาทางกฎหมาย ดังนั้น ในบทความนี้ทาง Thaiforexreview จะพาทุกท่านไปย้อนดูและทำความรู้จักว่า กองทุน Forex คืออะไร? ทำงานอย่างไร? มีกระบวนการสอบแบบไหน? และที่สำคัญ คือ ความเสี่ยงของกองทุน Forex ที่เทรดเดอร์ต้องระวังครับ!
กองทุน Forex หรือ Prop Trade คือ บริษัทการเงินหรือโบรกเกอร์ที่ได้ทำการสนับสนุนเงินทุนให้แก่เทรดเดอร์สำหรับใช้ในการซื้อขาย Forex หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ตามข้อกำหนดของบริษัท โดยบริษัทเหล่านี้มีชื่อเต็มว่า Proprietary Trading Firm (Prop Firm)
ซึ่งผลกำไรที่ได้จากการเทรดจะถูกแบ่งปันตามข้อตกลงการเป็นหุ้นส่วนที่ตกลงกันไว้ โดยเทรดเดอร์จะได้รับส่วนแบ่งของกำไรตามเงื่อนไขที่ระบุในสัญญา ซึ่งส่วนแบ่งที่ได้รับอาจจะมีความแตกต่างกันแล้วแต่สัญญาและบริษัทที่ร่วมทำสัญญาครับ
ในบางครั้ง เราอาจเรียกกองทุน Forex และผู้ที่ทำอาชีพนี้ว่า
-
Prop Firms หรือที่คนไทยส่วนมากเรียก Prop Trade คือ บริษัทที่จัดสอบกองทุน Forex เพื่อทำข้อตกลงในการสนับสนุนเงินทุนที่ใช้ในการเทรดให้แก่เทรดเดอร์
-
Prop Trader คือ เทรดเดอร์ที่ทำข้อตกลงร่วมกับบริษัท Prop Trade และได้รับส่วนแบ่งเมื่อทำกำไรจากการซื้อขาย Forex หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ได้
Prop Trade เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มีทักษะและประสบการณ์ในการซื้อขายหลักทรัพย์ รวมถึงผู้ที่สามารถจัดการกับแรงกดดันและมีวินัยในการซื้อขายได้ดี หากเทรดเดอร์ที่มีความสามารถแต่ไม่ต้องการใช้เงินทุนของตัวเอง Prop Trade อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจแก่เทรดเดอร์ครับ
กองทุน Forex หรือ Prop Trade มีหลักการทำงาน คือ การจัดหาเงินเพื่อนำไปต่อยอดในการลงทุน โดยที่ Prop Trade จะเป็นบริษัทจัดหาและสนับสนุนเงินทุนให้แก่เทรดเดอร์ (Prop Trader) ด้วยวิธีการต่าง ๆ แต่ Prop Trade ไม่ได้ใช้เงินฝากหรือเงินลงทุนของลูกค้าเหมือนโบรกเกอร์ แต่ใช้เงินทุนของบริษัทเองหรือจากนักลงทุนที่สนับสนุนบริษัท ดังนั้น บริษัท Prop Trade ส่วนมากจึงเป็นสถาบันทางการเงิน, ธนาคาร, บริษัทหลักทรัพย์ หรือ Hedge Fund ครับ
ส่วนเทรดเดอร์ (Prop Trader) จะทำข้อตกลงกับ Prop Trade ได้ก็ต่อเมื่อผ่านการทดสอบเพื่อวัดระดับความสามารถที่ Prop Trade จัดสอบขึ้น ซึ่งระดับความสามารถของเทรดเดอร์จะส่งผลต่อส่วนแบ่งที่จะได้รับ โดยอัตราส่วนแบ่งที่มากที่สุด คือ 90% ครับ อย่างไรก็ดี เทรดเดอร์จะต้องเทรดตามเกณฑ์ที่ Prop Trade กำหนด หากไม่สามารถทำได้ก็อาจถูกยกเลิกสัญญาได้ครับ
ประเภทของบริษัท Prop Trade หรือ Prop Firms สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
บริษัท Prop อิสระ (Independent Prop Firms) |
บริษัท Prop อิสระ คือ บริษัทอิสระที่ดำเนินการด้วยเงินทุนของบริษัท โดยไม่ขึ้นตรงกับโบรกเกอร์รายใหญ่ ซึ่งเทรดเดอร์สามารถใช้เงินบริษัทในการลงทุน เพื่อซื้อขายในนามบริษัท และได้รับส่วนแบ่งกำไรตามเงื่อนไขที่ตกลงกับบริษัทได้เลย
บริษัท Prop ภายใต้โบรกเกอร์ (Brokerage-Based Prop Desks) |
บริษัท Prop ภายใต้โบรกเกอร์ คือ บริษัทโบรกเกอร์ที่ใช้ทุนของโบรกเกอร์เอง โดยเทรดเดอร์จะทำงานในฐานะพนักงานในสังกัดของโบรกเกอร์ ซึ่งเทรดเดอร์จะได้รับการสนับสนุนจากโบรกเกอร์ อย่างเช่น ข้อมูลตลาด การวิเคราะห์ และเครื่องมือเทรดทางเทคนิคต่าง ๆ เพื่อสร้างรายได้ให้กับทั้งเทรดเดอร์และโบรกเกอร์ครับ
กองทุน Forex หรือ Prop Trade เปรียบเสมือนบริษัทที่มีการจ้างเทรดเดอร์ให้เข้าไปทำงาน โดยใช้เงินทุนของบริษัทในการซื้อขายสินทรัพย์ทางการเงิน ปัจจุบันจึงมี Prop Trade เป็นจำนวนมาก ซึ่ง 5 กองทุน Forex หรือ Prop Trade ต่อไปนี้เป็นเพียงกองทุน Forex ที่ได้รับความนิยมในไทยเท่านั้นครับ
1. FTMO |
FTMO คือ หนึ่งใน Prop Trade ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 โดยเทรดเดอร์ที่จะได้รับเงินทุนต้องผ่านการคัดเลือก หรือเงื่อนไขที่ทางกองทุน FTMO ได้กำหนดไว้ ซึ่งจะใช้ FTMO Demo (บัญชี Demo) ในการสอบ และจะได้รับบัญชีเทรดที่ใช้เงินทุนของบริษัท
2. TFT |
The Funded Trader (TFT) คือ Prop Trade หรือ Prop Firms โดยเทรดเดอร์ที่จะได้รับเงินทุนจากบริษัทต้องสอบผ่านการคัดเลือกตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ซึ่งจำนวนเงินทุนมีตั้งแต่ขนาด 5,000 ดอลลาร์ ถึง 1,500,000 ดอลลาร์ โดยการเทรดจะเน้นเทรดในตลาด Forex และ CFDs บนแพลตฟอร์มที่เทรดเดอร์นิยม เช่น MT4 และ MT5
3. The5%ers |
The5%ers คือ บริษัทกองทุน (Prop Trade) ที่เทรดเดอร์จะได้รับเงินทุนของบริษัทเพื่อทำกำไรเมื่อเทรดเดอร์สอบกองทุนผ่านตามที่เงื่อนไขบริษัทกำหนด โดย The5%ers รับรองการเทรดสินทรัพย์ที่หลากหลาย เช่น Forex, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์และคริปโต และยังสามารถเทรดผ่าน MT5 ได้ครับ
4. CTI |
City Traders Imperium (CTI) คือ Prop Trade ที่ให้เงินทุนกับเทรดเดอร์เมื่อสอบกองทุนผ่านตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด แต่นอกจากเงินทุนแล้ว บริษัทยังมีโปรแกรมให้คำปรึกษาและการฝึกอบรม เพื่อช่วยให้เทรดเดอร์ประสบความสำเร็จในการเทรดด้วยครับ โดย CTI รองรับการเทรดตราสารต่าง ๆ ทั้ง Forex, หุ้น, ทองคำและดัชนี
5. FundedNext |
FundedNext คือ บริษัทกองทุน (Prop Trade) ที่มีแผนการให้เงินทุนกับเทรดเดอร์ทั้งหมด 10 แบบ เมื่อสอบผ่านตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด ซึ่ง FundedNext รองรับการเทรดในตลาด Forex, ดัชนีและสินค้าโภคภัณฑ์ และยังสามารถเทรดผ่าน MT4 ได้ครับ
เทรดเดอร์จะได้อะไร หากทำสัญญากับ Prop Trade โดยสิ่งที่ Prop Trader จะได้รับเมื่อสอบกองทุนผ่าน มีดังนี้ครับ
-
ใบประกาศเมื่อสอบผ่าน ซึ่งสามารถนำไปใส่ใน Portfolio เพื่อสมัครงานต่อไปได้
-
ได้รับค่าสมัครสอบคืนบางส่วนหรือทั้งหมด ขึ้นอยู่กับ Prop Trade ที่เข้าร่วม แต่ส่วนมากจะได้คืนทั้งหมด
-
ได้รับเงินเดือนประจำตำแหน่ง ซึ่งแตกต่างกันแล้วแต่ประเทศที่อาศัย รวมถึงข้อตกลงที่ทำสัญญา
-
ได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการเทรด ซึ่งอัตราส่วนขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำกำไร
-
ตัวช่วยในการสนับสนุนการเทรด ทั้งการอบรมและเครื่องมือการเทรดในระดับมืออาชีพ เพื่อส่งเสริมการทำกำไรและจำกัดการขาดทุนให้ได้มากที่สุด
-
สิทธิพิเศษอื่น ๆ
การเทรดด้วยตัวเองจะทำให้เทรดเดอร์ได้รับกำไรแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ต้องแบ่งกับใคร แล้วทำไมต้องสอบกองทุน Forex และการสอบกองทุน Forex มีความน่าสนใจอย่างไร? ทาง Thaiforexreview จะพาทุกท่านไปดูประโยชน์ของกองทุน Forex กันครับ
1. เงินทุนสนับสนุน |
หากใช้เงินทุนของตัวเอง เทรดเดอร์อาจจะเพิ่มกำลังซื้อและขยายผลกำไรได้จากการใช้ Margin และ Leverage แต่กำลังซื้อที่เพิ่มขึ้นมากจนเกินไปก็อาจทำให้ผลขาดทุนขยายตามไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ครับ อีกทั้ง เงินทุนที่มีอย่างจำกัดก็อาจบีบให้กำไรที่ควรจะได้รับลดลงด้วย แต่หากเทรดเดอร์มีเงินทุนอย่างมหาศาลที่มาคอยสนับสนุน ผลก็อาจจะแตกต่างออกไป เพราะจะช่วยให้เทรดเดอร์เข้าถึง Spread ที่แคบลงและอาจทำกำไรได้มากขึ้นนั่นเองครับ
อย่างที่รู้กันดีว่า เงินทุนที่ได้รับการสนับสนุนนั้นแตกต่างกันตามระดับความสามารถของ Prop Trader ตามที่บริษัทกำหนดตามกฎเกณฑ์
นอกจากนี้ การทำสัญญากับ Prop Trade ถือเป็นการได้รับเงินทุนมาอย่างถูกต้อง ขณะที่การฝากเทรดหรือระดมทุนเพื่อใช้ในการเทรดจากบุคคลอื่นมีความผิดที่ว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงของไทย ซึ่งถือเป็นประเด็นทางกฎหมายที่มีความละเอียดอ่อนมากครับ
2. เครื่องมือสนับสนุน |
Prop Trade มักจะมีการสนับสนุนเครื่องมือและตัวช่วยต่าง ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกำไรและลดโอกาสขาดทุนที่มากที่สุดให้แก่ Prop Trader ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้จะช่วยหนุนให้เทรดเดอร์เข้าถึงองค์ความรู้และเครื่องมือในระดับมืออาชีพ ทำให้เทรดเดอร์ก้าวข้ามขีดจำกัดต่าง ๆ ทั้งเงินทุนและความสามารถในการเทรด เพื่อเพิ่มพูนกลยุทธ์และความสามารถในการทำกำไรได้เป็นอย่างดี นับเป็นประสบการณ์ที่เทรดเดอร์อาจไม่ได้สัมผัสง่าย ๆ เลยครับ
ด้วยองค์ความรู้ต่าง ๆ ที่ Prop Trade มอบให้ ตลอดจนประสบการณ์การเทรดที่ Prop Trader ได้รับในช่วงที่ทำสัญญา มันจะช่วยให้เทรดเดอร์เติบโตในสายอาชีพเพิ่มมากขึ้นได้อย่างแน่นอน
โดยปกติแล้ว Prop Trade จะมีกระบวนการจัดสอบด้วยการกำหนดเงื่อนไข 4 ประการหลัก ๆ ที่ผู้สมัครสอบจำเป็นต้องปฏิบัติตาม คือ
1. โปรแกรมที่ใช้เทรด |
Prop Trade ที่จัดสอบกองทุน Forex จะมีการกำหนดโปรแกรม, แพลตฟอร์ม ตลอดจนเครื่องมือที่สามารถใช้ในการเทรดได้ ซึ่งแตกต่างกันแล้วแต่บริษัท แต่โดยส่วนมากจะเป็นแพลตฟอร์มขนาดใหญ่อย่าง MetaTrader และ cTrader เป็นต้นครับ อย่างไรก็ดี เทรดเดอร์ที่สมัครสอบต้องศึกษาเงื่อนไขให้ชัดเจนว่า กองทุน Forex นั้น ๆ มีการจำกัดการใช้งานเครื่องมืออย่าง EA ด้วยหรือไม่ครับ
2. ระยะเวลา |
กองทุน Forex บางแห่งอาจมีการกำหนดระยะเวลาในการสอบ โดยแบ่งออกเป็น 2 ช่วง เช่น ช่วงแรก 30 วัน เมื่อสอบผ่านจะสามารถเข้าร่วมการสอบในช่วงที่ 2 ซึ่งมีระยะเวลา 60 วันได้ เป็นต้น แต่อย่างไรก็ดี ในช่วงหลัง ๆ มานี้ กองทุน Forex หลายแห่งเริ่มปรับมาเป็นไม่จำกัดระยะเวลาในการสอบครับ
นอกจากระยะเวลาสอบที่ต้องดูแล้ว ระยะเวลาที่ทำการเทรดต่อสัปดาห์ก็ควรศึกษาให้ชัดเจนด้วย เพราะส่วนมากจะมีการกำหนดว่า ใน 1 สัปดาห์จะต้องมีการเทรดอย่างน้อยกี่วัน ซึ่งหลัก ๆ จะอยู่ในช่วง 3–5 วัน แล้วแต่เงื่อนไขของกองทุนนั้น ๆ ครับ
3. เป้าหมายกำไร |
เงื่อนไขสำคัญที่ผู้สมัครหลายคนมักจะมองหาเป็นอันดับแรก ๆ คือ เป้าหมายกำไร ซึ่งจะมีการกำหนดอัตราผลตอบแทนที่ผู้สมัครจะต้องทำให้ได้ตามเป้าเป็นตัวเลข มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับโปรแกรมที่สมัครครับ อาทิ โปรแกรมสำหรับบุคคลทั่วไปอาจมีเป้าหมายกำไรไม่เยอะเท่าโปรแกรมสำหรับมืออาชีพ เป็นต้น โดยโปรแกรมและเป้าหมายกำไรเหล่านี้จะส่งผลต่อระดับเงินทุนที่ Prop Trader จะได้รับต่อไปครับ
4. จำนวนที่สามารถขาดทุนได้ |
เงื่อนไขข้อสุดท้ายที่ผู้สมัครไม่ควรมองข้าม คือ จำนวนที่สามารถขาดทุนได้ (Drawdown) โดยจะมีการกำหนดจำนวนเงินที่ผู้สมัครสามารถขาดทุนได้สูงสุดทั้งต่อวันและต่อการสอบในแต่ละครั้ง ดังนั้น ผู้สมัครจึงควรศึกษาเงื่อนไขข้อนี้ให้ดีครับ เพราะมันอาจทำให้คุณสอบตกได้ง่าย ๆ
หากเทรดเดอร์คิดว่า กองทุน Forex (Prop Trade) เต็มไปด้วยข้อดี และอยากที่จะทำอาชีพ Prop Trader คุณควรอ่านสิ่งนี้ก่อนครับ เพราะความเสี่ยงที่ Prop Trader ต้องเผชิญอาจมีมากกว่าข้อดี ดังนั้น เทรดเดอร์โปรดศึกษาความเสี่ยงให้รอบด้านก่อนตัดสินใจครับ
หากเทรดเดอร์ต้องการสอบการทุน Forex จะมีวิธีการเลือกบริษัทที่จัดสอบอย่างไร วันนี้ทาง Thaiforexreview จะพาไปดูวิธีเลือกกองทุน Forex ที่เหมาะสมกับแต่ละคนกันครับ
ตรวจสอบความน่าเชื่อถือ |
บริษัทที่จัดสอบกองทุน Forex มีจำนวนมาก เทรดเดอร์ควรตรวจสอบประวัติบริษัทจากข่าวสารและรีวิวของผู้ใช้งานจริง เพื่อให้มั่นใจว่ามีความโปร่งใสและเหมาะสมต่อการลงทุน
เลือกโปรแกรมสอบให้เหมาะสม |
กองทุน Forex มีหลายระดับ ทั้งโปรแกรมสำหรับมือใหม่และมืออาชีพ ซึ่งแต่ละโปรแกรมมีเงื่อนไขการสอบและค่าธรรมเนียมต่างกันตามเงื่อนไขการสอบ ดังนั้น เทรดเดอร์ควรเลือกโปรแกรมให้เหมาะกับทักษะและเงินทุนของตนเอง เพราะหากสอบไม่ผ่าน ค่าสมัครส่วนนี้เทรดเดอร์จะไม่ได้คืนครับ
ศึกษารายละเอียดและเงื่อนไข |
ก่อนเทรดเดอร์สมัครควรอ่านเงื่อนไขให้ชัดเจน ทั้งก่อนสอบและก่อนทำสัญญา โดยเฉพาะข้อจำกัดด้านความเสี่ยง เช่น Drawdown Limit หรือกฎระเบียบที่เข้มงวดมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เทรดเดอร์เกิดความเครียดหรือเกิดการขาดทุนสะสมจนต้องออกจากงานได้ครับ
พิจารณาส่วนแบ่งกำไร |
ควรตรวจสอบส่วนแบ่งทั้งก่อนสมัครและทำสัญญาว่ารูปแบบการแบ่งกำไรสอดคล้องกับเงื่อนไขที่กำหนดหรือไม่ หากมีข้อจำกัดมากเกินไปเมื่อเทียบกับผลตอบแทน ก็อาจจะไม่คุ้มค่าที่จะลงทุนได้ครับ
ทั้งหมดนี้เป็นแนวทางเบื้องต้นในการเลือก Prop Trade อย่างรอบคอบ เนื่องจากหากบริษัทมีปัญหาด้านความโปร่งใส เช่น กรณี My Forex Fund (MFF) ที่ถูกระงับในเดือนกันยายน 2023 ลูกค้าอาจไม่ได้รับความรับผิดชอบจากบริษัท ดังนั้น เทรดเดอร์ควรตัดสินใจด้วยเหตุผลและวิจารณญาณอย่างรอบคอบครับ
สุดท้ายนี้ ผมจะมาสรุปข้อดีและข้อเสียของกองทุน Forex (Prop Trade) ให้ทุกท่านใช้เป็นเกณฑ์ในการตัดสินใจกันครับ
ข้อดี กองทุน Forex (Prop Trade) |
|
ข้อเสียกองทุน Forex (Prop Trade) |
|
Prop Trader และ Full-Time Trader มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน เทรดเดอร์ควรเลือกให้เหมาะสมกับเป้าหมายและสไตล์การเทรดของตัวเอง ซึ่งในบทความนี้ทาง Thaiforexreview จะพาเทรดเดอร์ไปดูความแตกต่างของทั้งสองรูปแบบการเทรดนี้กันครับ
-
Prop Trader คือ การเทรดโดยใช้เงินทุนของบริษัท โดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของบริษัทกำหนด ซึ่งจะได้รับส่วนแบ่งจากกำไรที่ทำได้
-
Full-Time Trader คือ การเทรดโดยใช้เงินทุนตัวเอง ซึ่งเทรดเดอร์ต้องรับผิดชอบผลกำไรหรือขาดทุนเองทั้งหมด
คุณสมบัติ | Prop Trader | Full-Time Trader |
เงินทุน | ใช้เงินทุนจากกองทุน Forex | ใช้เงินทุนตนเอง |
ส่วนแบ่งกำไร | ตาม % ที่ตกลงไว้กับกองทุน Forex | ได้รับ 100% |
ความเสี่ยงขาดทุน | ไม่ได้รับความเสี่ยงในการขาดทุนโดยตรง แต่อาจมีการถูกยกเลิกการสนับสนุนเงินทุนจากกองทุน Forex | รับผิดชอบความเสี่ยงด้วยตนเอง |
รูปแบบการเทรด | ขึ้นอยู่กับข้อตกลง | ไม่มีข้อจำกัด |
Leverage | เข้าถึง Leverage สูงได้จากเงินทุนที่มาก เข้าถึงโบรกเกอร์ไม่จำกัด | ต้องหาโบรกเกอร์ที่ให้ Leverage สูงเอง |
จุดเด่น | โดยไม่ต้องใช้เงินทุนตนเอง | อิสระ มีความหยืดหยุ่นในการเทรดจากต้นทุนของตนเอง |
กองทุน Forex หรือ Prop Trade คืออะไร?
▶ กองทุน Forex หรือ Prop Trade คือ การที่บริษัท Proprietary Trading สนับสนุนเงินทุนให้แก่เทรดเดอร์ในการซื้อขาย Forex หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ตามข้อกำหนดของบริษัท
5 กองทุน Forex หรือ Prop Trade ที่ได้รับความนิยมในไทยมีอะไรบ้าง?
▶ FTMO, TFT, The5%ers, CTI และ FundedNext
Prop Trader คืออะไร?
▶ Prop Trader คือ เทรดเดอร์ที่ทำข้อตกลงร่วมกับบริษัท Prop Trade และได้รับส่วนแบ่งเมื่อทำกำไรจากการซื้อขาย Forex หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ได้
Prop Firms คืออะไร?
▶ Prop Firms คือ บริษัทที่จัดสอบกองทุน Forex เพื่อทำข้อตกลงในการสนับสนุนเงินทุนที่ใช้ในการเทรดให้แก่เทรดเดอร์ ซึ่ง Prop Firm หรือที่คนไทยส่วนมากเรียก Prop Trade
โดยสรุปแล้ว กองทุน Forex หรือ Prop Trade คือ บริษัทที่มีการทำธุรกิจจัดหาเงินทุนให้แก่เทรดเดอร์เพื่อใช้ทำกำไรในตลาด Forex รวมถึงตลาดอื่น ๆ ซึ่งการทำข้อตกลงจะมีการกำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ตลอดจนส่วนแบ่งที่เทรดเดอร์จะได้รับ โดยระดับเงินทุนและส่วนแบ่งนั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวเทรดเดอร์เอง ทำให้มีการจัดสอบเพื่อประเมินความสามารถก่อนเริ่มทำสัญญา
อย่างไรก็ดี แม้ธุรกิจดังกล่าวจะช่วยหนุนให้เทรดเดอร์ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์สามารถเข้าถึงเงินทุนและทรัพยากรต่าง ๆ ของ Prop Trade ได้อย่างมหาศาล แต่ก็มีความเสี่ยงที่เทรดเดอร์ต้องเผชิญ ซึ่งถือเป็นประเด็นอ่อนไหวอย่างกฎหมายและข้อบังคับในการกำกับดูแลธุรกิจดังกล่าวครับ
ทุกท่านน่าจะเห็นกันแล้วว่า กองทุน Forex หรือ Prop Trade มีทั้งด้านที่ดีและควรระวัง ดังนั้น หากใครต้องการสมัครเป็น Prop Trader ก็จำเป็นต้องพิจารณาความเสี่ยงต่าง ๆ ให้รอบด้าน รวมถึงข้อตกลงในการทำสัญญา เพื่อประโยชน์ต่อตัวท่านเองด้วยนะครับ
หากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม
สามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับ Forex ได้ทางเว็บไซต์ www.thaiforexreview.com
ติดตามความเคลื่อนไหวและการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก Thaiforexreview
ติดตามข่าวสารการลงทุนและบทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์ได้ที่ Forex Analysis
อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ Blogs
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมได้ที่ Top Brokers
แนะนำโบรกเกอร์สำหรับคุณ
