List of content
5 อันดับสกุลเงินที่แข็งค่าที่สุดในโลก!! อัปเดตรอบครึ่งปี 2023
เข้าสู่ปลายเดือนมิถุนายนแล้ว ครึ่งปีที่ผ่านมานี้ พอร์ตการลงทุนของทุกท่านเป็นอย่างไรบ้างครับ เป็นไปตามที่คาดหวังหรือไม่? วันนี้ ผมจะพาทุกท่านมาอัปเดตกันว่า สกุลเงินที่แข็งค่าหรือแพงที่สุดในรอบครึ่งปีที่ผ่านมาจะมีสกุลเงินใดบ้าง เผื่อจะเป็นประโยชน์หรือเกร็ดความรู้ให้กับทุกท่านครับ!
สกุลเงินคืออะไร?
สกุลเงิน คือ สื่อกลางในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ โดยปกติมักจะเป็นวัตถุที่มีมูลค่า ซึ่งถูกยอมรับร่วมกันในระดับสากลหรือระดับประเทศเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจครับ
และแน่นอนว่า ค่าของเงินหรืออัตราแลกเปลี่ยนนั้น สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาตามปัจจัยต่าง ๆ ดังนั้น เมื่อสกุลเงินหนึ่งแข็งค่าขึ้น อีกสกุลเงินหนึ่งย่อมอ่อนค่าลงนั่นเองครับ
การแข็งค่าและอ่อนค่าของสกุลเงิน
ก่อนที่จะบอกว่า สกุลเงินหนึ่ง ๆ แข็งค่าหรืออ่อนค่านั้น เราจะต้องนำสกุลเงินหนึ่งไปเปรียบเทียบกับอีกสกุลเงินหนึ่งก่อน แล้วจึงค่อยเกิดเป็นการอ่อนค่าและแข็งค่าครับ แต่ส่วนมักสกุลเงินที่นำไปเปรียบเทียบมักจะเป็น “ดอลลาร์สหรัฐฯ” ครับ
-
การแข็งค่าของสกุลเงิน
การแข็งค่า คือ การที่สกุลเงินหนึ่งมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ทำให้สกุลเงินนั้น ๆ สามารถแลกเงินต่างประเทศได้มากขึ้น
-
การอ่อนค่าของสกุลเงิน
เช่นเดียวกัน การอ่อนค่า คือ การที่สกุลเงินหนึ่งมีมูลค่าลดลง ทำให้สกุลเงินนั้น ๆ สามารถแลกเงินต่างประเทศได้น้อยลง
ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงิน
การที่สกุลเงินหนึ่ง ๆ จะแข็งค่าหรืออ่อนค่าได้นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งส่งผลต่ออุปสงค์และอุปทานการถือครองเงินตรา ดังนี้ครับ
-
นโยบายการเงินภายในประเทศ
-
ปริมาณเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ
-
การค้าและการลงทุนจากต่างชาติ
-
สถานการณ์ภายในประเทศและระหว่างประเทศ
ผลกระทบเมื่อเงินแข็งค่า-อ่อนค่า
เมื่อสกุลเงินหนึ่ง ๆ แข็งค่าหรืออ่อนค่าจะส่งผลอย่างไร? สิ่งที่เกิดขึ้น คือ ประเทศเจ้าของสกุลเงินนั้น ๆ จะได้รับผลกระทบ และจะต้องประคองให้ค่าเงินเกิดความสมดุลมากที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบต่อระบบเศรษฐกิจภายในประเทศมากจนเกินไปครับ โดยผลกระทบที่เกิดจากค่าเงินสามารถแบ่งได้กว้าง ๆ ดังนี้ครับ
-
ด้านการนำเข้า - ส่งออก
การนำเข้าและส่งออกเป็นภาคธุรกิจที่มีการแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศอยู่เสมอ ดังนั้น เมื่อค่าเงินแข็งค่าหรืออ่อนค่าก็จะทำให้ธุรกิจเหล่านี้แลกเปลี่ยนเงินได้มากขึ้นหรือน้อยลงตามไปด้วยนั่นเองครับ
-
ด้านการท่องเที่ยว
ค่าเงินที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงมากเกินไปอาจเป็นสิ่งที่โน้มน้าวให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเดินทางมายังประเทศนั้น ๆ ซึ่งธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยวและบริการก็จะได้รับผลกระทบตามไปด้วยครับ
-
ด้านการลงทุน
สุดท้าย คือ ภาคการลงทุน การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินมักจะส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจเคลื่อนย้ายเงินทุนของนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะกระทบต่อภาคเอกชนต่อไปครับ
อัตราค่าเงิน ณ วันที่ 23 มิถุนายน 2023 คือ 1 USD เท่ากับ 0.3074 KWD
ดีนาร์คูเวต (Kuwaiti Dinar: KWD) เป็นสกุลเงินที่แพงที่สุดในโลกในขณะนี้ โดยคูเวตเป็นประเทศที่มีรายได้มหาศาลจากการเป็นผู้ส่งออกน้ำมันชั้นนำของโลก อีกทั้ง ยังมีเงินทุนสำรองสูง และเมื่อประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่แข็งแรง จึงทำให้ดีนาร์คูเวตกลายเป็นสกุลเงินที่แข็งค่าที่สุดและน่าจับตามองมากที่สุดสกุลหนึ่งของโลก
อัตราค่าเงิน ณ วันที่ 23 มิถุนายน 2023 คือ 1 USD เท่ากับ 0.3770 BHD
ดีนาร์บาห์เรน (Bahraini Dinar: BHD) เป็นสกุลเงินที่แข็งแกร่งเป็นอันดับ 2 ของโลก จากการที่บาห์เรนเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและก๊าซชั้นนำของโลกเช่นเดียวกับคูเวต อีกทั้ง บาห์เรนยังเป็นประเทศศูนย์กลางธนาคารของภูมิภาคหรืออ่าวเปอร์เซีย ดังนั้น แม้บาห์เรนจะเป็นประเทศเล็ก ๆ แต่ก็สามารถมีค่าเงินที่แพงเป็นอันดับ 2 ของโลกได้ครับ
อัตราค่าเงิน ณ วันที่ 23 มิถุนายน 2023 คือ 1 USD เท่ากับ 0.3850 OMR
สกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก คือ เรียลโอมาน (Omani Rial: OMR) ของประเทศโอมาน ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเยเมนที่ปลายคาบสมุทรอาหรับ โดยที่มาการแข็งค่าของเรียลโอมานเป็นเช่นเดียวกับ 2 สกุลเงินก่อนหน้า คือ การเป็นผู้ส่งออกน้ำมันและก๊าซรายใหญ่ครับ
อัตราค่าเงิน ณ วันที่ 23 มิถุนายน 2023 คือ 1 USD เท่ากับ 0.7095 JOD
ต่อมา คือ ดีนาร์จอร์แดน (Jordanian Dinar: JOD) ประเทศที่มีพื้นที่ส่วนใหญ่ปิดล้อมหรือเกือบไม่มีทางออกสู่ทะเล การแข็งค่าของดีนาร์จอร์แดนแตกต่างจาก 3 สกุลเงินข้างต้น คือ จอร์แดนเป็นประเทศที่ไม่มีน้ำมัน แต่มีความแข็งแกร่งเนื่องจากเศรษฐกิจที่หลากหลาย ทั้งการค้า การเงิน การผลิต และการทำเหมือง ด้วยเหตุนี้ ดีนาร์จอร์แดนจึงถูกตรึงมูลค่ากับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ นั่นเองครับ
อัตราค่าเงิน ณ วันที่ 23 มิถุนายน 2023 คือ 1 USD เท่ากับ 0.7868 GBP
ลำดับสุดท้าย คือ ปอนด์อังกฤษ (British Pound: GBP) สกุลเงินที่เก่าแก่ที่สุดในโลก อีกทั้ง ยังเคยเป็นสกุลเงินที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกสกุลหนึ่ง และปัจจุบัน อังกฤษก็เป็นประเทศที่มีตัวเลข GDP สูงที่สุดเป็นอันดับ 6 ของโลกครับ แม้ว่าก่อนหน้านี้ปอนด์อังกฤษจะทำลายสถิติอ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 37 ปี แต่ก็ค่อย ๆ กลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เรายังต้องติดตามความเคลื่อนไหวของอังกฤษต่อไปว่า จะยังคงความยิ่งใหญ่ต่อไปได้หรือไม่ผลบอลสด
รู้หรือไม่?! US Dollar (USD) สกุลเงินที่ผู้คนใช้แลกเปลี่ยนและนิยมเทรดมากที่สุดในโลก เป็นสกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุดในโลกอันดับ 10 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 1 ต่อตัวมันเอง ขณะที่ Euro (EUR) สกุลเงินอย่างเป็นทางการของยูโรโซนที่ถูกใช้กว่า 20 ประเทศ ติดอันดับสกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุดในโลกอันดับ 9 ซึ่งมีค่า 1 USD เท่ากับ 0.9147 EUR ครับ
สรุป
ทั้งหมดนี้ คือ 5 อันดับสกุลเงินที่แข็งค่าหรือแพงที่สุดในโลก อัปเดตรอบครึ่งปี 2023 เป็นอย่างไรกันบ้างครับ มีรายชื่อที่คาดคิดไว้อยู่ในลิสต์ข้างต้นบ้างหรือเปล่า? แล้วสังเกตกันหรือไม่ครับว่า ประเทศที่มีค่าเงินแพงที่สุดเป็นอันดับต้น ๆ มักจะเป็นประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมัน เรียกได้ว่ารวยทรัพยากรมาก ๆ ครับ ส่วนประเทศในลำดับรองลงมาจะอาศัยพื้นฐานเศรษฐกิจที่ดีเยี่ยมในการสร้างรากฐานแทนครับ
การเปลี่ยนแปลงค่าเงินนี้มีทั้งขึ้นและลงอย่างเป็นสัจธรรม บางรายชื่อข้างต้นก็เคยเป็นมหาอำนาจในอดีต ดังนั้น เราจึงไม่สามารถคาดการณ์ได้เลยว่า ประเทศใดจะยืนอยู่ในจุดสูงสุดนี้ต่อไป ก็ได้แต่หวังว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศตนจะแข็งแกร่งพอให้อยู่ในจุดนี้ต่อไปได้ครับ
Source: Forbes
___________________________________
หากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม สามารถติดตาม ThaiForexReview
ติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดการลงทุนได้ที่ : News
อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ : Blogs
รีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยม : Top Brokers