List of content
Retail Sales คืออะไร ? ทำไมเทรดเดอร์ถึงต้องติดตาม ?!

ในโลกของการเทรด Forex ข้อมูลเศรษฐกิจมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการชี้นำทิศทางของตลาด และหนึ่งในตัวเลขเศรษฐกิจที่นักลงทุน Forex ให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด คือ ยอดค้าปลีก (Retail Sales) ในวันนี้ Thaiforexreview จะพาทุกคนมาดูว่า Retail Sales คืออะไร? ทำไมเทรดเดอร์ถึงต้องติดตาม
Retail Sales หรือยอดค้าปลีก ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายอดค้าปลีกในแต่ละเดือน โดยยอดค้าปลีกเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญของระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคในแต่ละเดือนที่เปลี่ยนแปลงไป สามารถบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของระบบเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
ยอดค้าปลีกนำมาคำนวณ จะประกอบไปด้วยสินค้าและบริการ ดังนี้
- สินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Goods) : เช่น อาหารและเครื่องดื่ม เสื้อผ้า อุปกรณ์กีฬา เครื่องสำอาง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
- สินค้าอุปกรณ์ในบ้าน (Home Goods) : เช่น เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น
- บริการ (Services) : เช่น บริการด้านสุขภาพ สปา ซาลอน หรือฟิตเนส เป็นต้น
- สินค้าเฉพาะทาง (Specialty Products) : เช่น เครื่องประดับ นาฬิกา หรือผลิตภัณฑ์แบรนด์หรู เป็นต้น
- ยานพาหนะ (Automobiles) : เช่น รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ และจักรยาน เป็นต้น
- สินค้าอื่น ๆ : เช่น หนังสือ ดอกไม้ หรือสินค้าตามฤดูกาล เป็นต้น
Core Retail Sales หมายถึง “ยอดค้าปลีกทั่วไป” ที่ไม่นับรวมสินค้าบางประเภทจากยอดค้าปลีก (Retail Sales) ซึ่งมีความผันผวนสูงหรือไม่สะท้อนถึงแนวโน้มที่แท้จริงของการใช้จ่ายของผู้บริโภค โดยสินค้าที่จะไม่ถูกนับรวม ได้แก่
- ยานพาหนะ (Automobiles) : ราคาสูงและมักขึ้นอยู่กับการตัดสินใจระยะยาว
- น้ำมันเชื้อเพลิง (Gasoline) : ราคามีความผันผวนจากปัจจัยภายนอก เช่น ราคาน้ำมันในตลาดโลก
- วัสดุก่อสร้าง (Building Materials) : ยอดขายขึ้นอยู่กับโครงการก่อสร้างที่ไม่ใช่กิจกรรมการใช้จ่ายทั่วไป
Retail Sales คือ ภาพรวมการใช้จ่ายทั้งหมด ส่วน Core Retail Sales คือ ภาพรวมการใช้จ่ายที่ไม่รวมรถยนต์ พลังงาน และวัสดุก่อสร้างนั่นเองครับ
Retail Sales คือ ตัวชี้วัดสำคัญในเศรษฐกิจที่แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงในยอดขายของภาคการค้าปลีกในแต่ละเดือน และมีปัจจัยหลายอย่างที่สามารถส่งผลกระทบต่อ Retail Sales m/m ได้ เช่น
- เทศกาลต่าง ๆ : ในช่วงเทศกาล ผู้บริโภคมักจะใช้จ่ายมากกว่าปกติ เช่น ช่วงวันหยุด, ปีใหม่, หรือเทศกาลต่าง ๆ เพราะสามารถกระตุ้นการซื้อของผู้บริโภคได้
- ภาวะเศรษฐกิจ : ภาวะเศรษฐกิจมักจะมีผลต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค เช่น การเพิ่มขึ้นของการว่างงาน อาจลดการจับจ่าย
- อัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ย : ราคาสินค้าและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สามารถส่งผลต่อพฤติกรรมการซื้อ เช่น หากสินค้าราคาแพงหรืออัตราดอกเบี้ยสูง ผู้บริโภคอาจลดการใช้จ่าย
- การเปลี่ยนแปลงทางด้านนโยบาย : การเปลี่ยนแปลงทางด้านนโยบายภาษี การนำเข้า-ส่งออกสินค้า หรือมาตรการต่าง ๆ อาจกระทบต่อราคาสินค้าในตลาด
- พฤติกรรมของผู้บริโภค : การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค เทรนด์สินค้า หรือความชอบ อาจส่งผลกระทบต่อยอดค้าปลีกในแต่ละช่วง
- เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด : ภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือวิกฤตการณ์อื่น ๆ สามารถส่งผลกระทบต่อการขายสินค้าในระยะสั้น
Retail Sales หรือยอดค้าปลีกนั้น เป็นข้อมูลที่เก็บมาจากการใช้จ่ายโดยรวมของประเทศ ซึ่งถ้าหากว่า ข้อมูล Retail Sales ในเดือนนั้น ๆ ออกมา ก็จะส่งผลโดยตรงต่อค่าเงินในประเทศ เช่น ข้อมูล Retail Sales ของสหรัฐฯ ในเดือนนี้ออกมาต่ำกว่าที่คาดการณ์ ก็จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นนั่นเองครับ ในทางกลับกัน หากว่า ข้อมูล Retail Sales ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ ก็จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า
โดยข้อมูลดังกล่าว สามารถนำมาต่อยอดในการเทรด Forex ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเราทราบแล้วว่า หากข้อมูล Retail Sales ออกมาแบบไหน และส่งผลกระทบยังไงต่อค่าเงิน เทรดเดอร์ก็สามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปวิเคราะห์ และคาดการณ์แนวโน้มของตลาดได้นั่นเองครับ
อย่างที่กล่าวไปว่า Retail Sales สามารถให้ข้อมูลความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ซึ่งทำให้เทรดเดอร์สามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปต่อยอดได้ ดังนี้
📍 การกำหนดแนวโน้มของตลาด (Market Trend)
เมื่อข้อมูล Retail Sales ออกมาสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ อาจเป็นสัญญาณว่าความต้องการในตลาดแข็งแกร่งขึ้น และอาจทำให้เงินสกุลนั้นมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น ในทางกลับกัน หากข้อมูลออกมาต่ำกว่าคาด อาจสะท้อนถึงความอ่อนแอทางเศรษฐกิจ ทำให้ค่าเงินอ่อนตัวลง
📍 การเลือกคู่สกุลเงินในการเทรด
เทรดเดอร์สามารถใช้ข้อมูล Retail Sales เพื่อเลือกคู่เงินที่น่าสนใจ เช่น หากตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐฯ แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับญี่ปุ่น เทรดเดอร์อาจพิจารณาเทรดคู่เงิน USD/JPY เพื่อจับโอกาสในความผันผวน
📍 วางแผนกลยุทธ์การเข้า-ออกตลาด
ข้อมูล Retail Sales สามารถใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคได้ เช่น การดูแนวรับแนวต้าน หรือ Moving Average เพื่อช่วยกำหนดจุดเข้าและออกของการเทรดได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น
📍 การติดตามความต่อเนื่องของข้อมูล
การที่เทรดเดอร์ติดตามและเปรียบเทียบตัวเลขในระยะยาว ทั้งแบบเทียบเดือนต่อเดือน หรือปีต่อปี สามารถช่วยให้เทรดเดอร์เข้าใจแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจได้ดีขึ้น
Retail Sales หรือยอดค้าปลีก เป็นข้อมูลชี้วัดเศรษฐกิจที่สำคัญ ซึ่งจะประกอบไปด้วย สินค้าอุปโภคบริโภค, สินค้าอุปกรณ์ในบ้าน, บริการต่าง ๆ, สินค้าเฉพาะทาง, ยานพาหนะ และสินค้าอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลชี้วัดเศรษฐกิจอีกตัวที่ไม่ได้นับรวมสินค้าบางประเภท อย่างยานพาหนะ, พลังงานเชื้อเพลิง และวัสดุก่อสร้าง ซึ่งเรียกว่า Core Retail Sales หรือยอดค้าปลีกทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 ตัวชี้วัดนี้ เป็นตัวชี้วัดเศรษฐกิจที่สำคัญ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อค่าเงินของประเทศนั้น ๆ และจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถคาดการณ์แนวโน้มทิศทางของตลาดได้ แต่ทั้งนี้ ก็ต้องศึกษาหาข้อมูลด้านอื่นเพิ่มเติม เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนเริ่มต้นลงทุน
หากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม
สามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับ Forex ได้ทางเว็บไซต์ www.thaiforexreview.com
ติดตามความเคลื่อนไหวและการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก Thaiforexreview
ติดตามข่าวสารการลงทุนและบทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์ได้ที่ Forex Analysis
อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ Blogs
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมได้ที่ Top Brokers
แนะนำโบรกเกอร์สำหรับคุณ
