มอร์นิ่งสตาร์ กล่าวถึง ปัจจัยที่ทำให้เงินไหลออกจากกองทุน ช่วงครึ่งปีหลัง

มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ได้มีการเปิดเผยว่า อุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยในช่วงครึ่งปีหลังนั้น ยังมีความเป็นไปได้ที่เงินจะไหลออกจากกองทุน เนื่องจากทั้งปีนั้นมีปัจจัยที่เข้ามาส่งผลกระทบ  คือ

1. การระบาดของ Omicorn ของช่วงหลังสงกรานต์ที่คาดว่าตัวเลขของผู้ติดเชื้ออาจเพิ่มสูงขึ้น ถึงแม้ว่าสถานการณ์โดยรวมนั้นกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น แต่ก็ยังถือว่าส่งผลต่อหุ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเห็นได้จากการระบาดของโควิด-19 ในประเทศจีนนั้น ทำให้ตลาดหุ้นปรับตัวลงในช่วงหนึ่งครับ

2. สงครามรัสเซีย-ยูเครนที่มีความยืดเยื้อมาเกือบ 2 เดือนแล้ว แต่เหมือนยังไม่มีท่าทีว่าสงครามจะจบลงในเร็ว ๆ นี้ จึงได้ส่งผลต่อราคาพลังงานทั่วโลก ทำให้กองทุนน้ำมันมีผลตอบแทนสูงสุดในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงยังส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อนั้นพุ่งสูงขึ้นไปอีกครับ ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีการปรับดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้นเพื่อรับมือกับอัตราเงินเฟ้อ ส่วนในด้านของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรมีการปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลต่อกองทุนตราสารหนี้

หลังจากช่วงไตรมาส 1 ปี 2565 กองทุนไทยรวม (เฉพาะกองทุนเปิด) มีมูลค่าสินทรัพย์รวม 4.1 ล้านล้านบาท มีความทรงตัวเช่นเดียวกับปี 2564 แต่หดตัวลง 4.2% โดยมีการหดตัวทุกกองทุน ยกเว้นกองทุนตราสารตลาดเงิน

สำหรับประเทศไทยเองนั้น ถึงแม้ว่ายังเจอการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้ผู้ติดเชื้อมีตัวเลขที่สูง ตั้งแต่สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ และตัวเลขยังไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง แต่ในช่วงที่ผ่านมายังถือว่าไม่ส่งผลกระทบต่อในประเทศไทยมากนัก โดยดัชนี SET Index ปิดที่ 1,695.24 จุด SET TR รอบ 3 เดือนอยู่ที่ 3.2%

ถึงแม้ว่าช่วงนี้หุ้นไทยยังไม่เป็นที่น่าสนใจเข้ามาลงทุน ส่งผลให้นักลงทุนไปลงทุนในหุ้นต่างประเทศมากกว่า เนื่องจากความหลากหลายของธุรกิจ แต่ก็ไม่ใช่ว่าหุ้นไทยไม่น่าสนใจไปทั้งหมดนะครับ และนักลงทุนเองก็มีการจัดพอร์ตกระจายการลงทุนหลากหลายไปยังสินทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อลดความเสี่ยง จากการที่ตลาดผันผวนในปีนี้ ทำให้นักลงทุนกล่าวว่า “หุ้นไทยนั้นยังเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตอยู่บ้าง” ครับ