List of content
การคว่ำบาตรรัสเซีย-ยูเครนลากยาว ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง
สงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่มีมาเกือบจะ 2 เดือนนั้น ทำให้ต่างชาติจับตามองเป็นอย่างมาก เนื่องจากสงครามได้ส่งผลกระทบในวงกว้าง โดยผลกระทบนั้นสะท้อนไปถึงราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น รวมไปถึงสินค้าโภคภัณฑ์ และปุ๋ยด้วย
นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่าในครึ่งปีหลัง 2565 นั้น คาดว่าสถานการณ์การคว่ำบาตรรัสเซียคงจะลากยาว และอาจจะรุนแรงเพิ่มขึ้น
โดยทางรัสเซียเองก็พยายามแสดงให้เห็นว่า ตัวเองสามารถอยู่รอดได้ ไม่ได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรของต่างชาติเลย และยังมีแนวโน้มที่จะดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ต่อไป โดยสถานการณ์แบบนี้นั้นจะส่งผลกระทบไปเศรษฐกิจทั่วโลกที่ตอนนี้พึ่งฟื้นตัวจากโควิด-19 รวมถึงในเศรษฐกิจไทยเราด้วย โดยเฉพาะภาคการส่งออก และภาคการท่องเที่ยวก็เป็นปัจจัยที่ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันครับ
นอกจากนี้เงินเฟ้อที่มีการปรับตัวสูงขึ้นจากราคาของพลังงาน, สินค้าโภคภัณฑ์, ราคาปุ๋ย และรวมไปถึงอาหารสัตว์ที่มีราคาพุ่งสูงขึ้น ในช่วงครึ่งปีหลังต้องมีการจับตามองสถานการณ์ว่าหากต้นทุนสูงขึ้นแบบนี้แล้วนั้น จะถูกส่งผ่านมาให้ผู้บริโภคมากแค่ไหน หากต้นทุนสูงแบบนี้เเล้วประชาชนต้องรับเต็ม ๆ จะส่งผลกระทบต่อประชาชนมาก แต่ถ้าหากมีช่วยเหลือแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยมีภาครัฐเข้ามาทำการช่วยเหลือก็จะสามารถลดผลกระทบต่อประชาชนได้
ทั้งนี้กระทรวงพาณิชย์ได้รายงานถึงคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องใช้กลไกในการควบคุมราคาเพื่อไม่ให้ราคาของสินค้านั้นสูงเกินไป โดยถ้าหากจะมีการขึ้นราคาของสินค้านั้นต้องมีการดำเนินเรื่องการตรวจสอบต้นทุน และจะไม่มีการปล่อยให้ขึ้นราคาของสินค้าได้อย่างง่ายแน่นอน
จากการรายงานในวันที่ 17 เมษายน 2565 นั้น ได้มีการประมาณการ GDP ของไทยขยายตัว 3.5%-4.5% จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากการล็อกดาวน์ในช่วงโควิด-19
จากที่ผมได้มีการกล่าวถึงสงครามรัสเซีย-ยูเครนนั้น ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ที่ไม่ใช่แค่ 2 ประเทศที่มีความขัดแย้งกันเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงเศรษฐกิจทั่วโลกอีกด้วย ซึ่งเห็นได้ชัดคือเรื่องของพลังงานน้ำมัน ซึ่งทำให้หลายประเทศมีการปรับราคาสินค้าให้สูงขึ้น หากส่งผลกระทบอย่างรวดเร็วนั้นอาจทำให้เราได้รับผลกระทบค่อนข้างมากขึ้นกว่านี้ เนื่องจากว่าประเทศเราไม่ได้มีการเตรียมตัวมากนัก รวมไปถึงภาครัฐด้วย แต่ถ้าหากได้รับผลกระทบแบบค่อยเป็นค่อยไป ภาครัฐก็น่าจะยังสามารถเข้ามาช่วยเหลือได้บ้าง ดังนั้นครึ่งปีหลัง 2565 ประเทศไทยเราจะมีแนวโน้มเศรษฐกิจไปในทิศทางไหน เราทุกคนควรจับตาดูให้ดีครับ