List of content
Bond Yield ของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างไร ?
Boud Yield คืออะไร?
Boud Yield คือ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งผู้ลงทุนนั้นจะได้รับผลตอบแทนในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยครับ เป็นผลตอบแทนที่นักลงทุนต่างมีความคาดหวังในการถือพันธบัตรรัฐบาลอายุต่าง ๆ โดย Boun Yiled ที่นักลงทุนต่างให้ความสนใจคือ Bond Yiled ของสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ถึงแม้จะมีพันธบัตรหลากหลายช่วงอายุ แต่พันธบัตรอายุ 10 ปีนั้นมีความแม่นยำในทางสถิติ โดยถ้านำไปเปรียบเทียบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในระยะสั้นคือสิ่งที่ชี้นำเศรษฐกิจถดถอย ส่วนถ้านำไปเปรียบเทียบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวนั้นคือสิ่งที่ชี้นำเรื่องฟองสบู่แตกครับ
ซึ่งโดยปกติแล้วนั้นอัตราผลตอบแทนในระยะยาวจะสูงกว่าอัตราผลตอบแทนในระยะสั้น แต่ในบางครั้งมีปรากฏการณ์ที่เรียกว่า Inverted Yield Curve คืออัตราผลตอบแทนระยะสั้นสูงกว่าอัตราผลตอบแทนระยะยาว ซึ่งเป็นสัญญาเตือนในภาวะที่เศรษฐกิจถดถอย ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะนี้อาจไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก เหตุการณ์นี้เคยเกิดขึ้นล่าสุดเมื่อปี 2562 ในเดือนสิงหาคม ส่งผลให้ปี 2563 นั้นมีภาวะที่เศรษฐกิจถดถอยเป็นระยะเวลา 5 เดือน ซึ่งการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยนั้นมีระยะเวลาที่ต่างกันตามสิ่งที่มากระตุ้น เช่นในปี 2563 นั้นเราได้เจอกับสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครรู้มาก่อน ซึ่งนี่เองจึงเป็นสาเหตุหลักที่เข้าไปส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในปี 2563
เรื่องฟองสบู่แตก อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ 10 ปี เป็นข้อมูลที่สำคัญที่ใช้ในการคำนวณค่า EYC ซึ่งในปี 2564 นั้น ดร.ดอน นาครทรรพได้มีการคำนวณอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของสหรัฐฯ ขึ้นไปอยู่ที่ร้อยละ 2.5 ต่อปี มีโอกาสสูงที่จะเห็นฟองสบู่หุ้นสหรัฐฯแตก แต่ในวันที่ 25 มีนาคม 2565 นั้น สหรัฐฯ เองได้ขึ้นไปแตะที่ 2.39 ก่อนที่จะดีดตัวกลับลงมาครับ แต่ถึงอย่างไรก็ถือว่าห่างจากภาวะฟองสบู่แตกครับ ถึงแม้ยังมีการเกิดสงครามของรัสเซีย-ยูเครน และวิกฤตของพลังงานเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
และในการประชุมที่ผ่านมานั้น เฟดรายงานว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางของสหรัฐฯ เองได้มีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยและลดการถือครองพันธบัตรเพื่อดึงการเกิดภาวะเงินเฟ้อให้ลดลง
ถึงอย่างไรนั้นก็ยังคงมองว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เองก็ยังมีความผันผวน ส่งผลให้การลงทุนยังคงมีความเสี่ยงสูง ส่วนเราก็ยังต้องจับตาดูสถานการณ์ และเตรียมรับมือกันต่อไปครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากนักลงทุนเองต่างก็มีความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ ในปีหน้า ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงนั้น เราต่างก็รู้กันดีว่าเศรษฐกิจของไทยเองก็ได้พึ่งการส่งออกไปสหรัฐฯ ถึงร้อยละ 17% มูลค่าถึง 2.71 ล้านเหรียญสหรัฐ และประเทศไทยของเราเองนั้นก็ยังไม่ฟื้นตัวดีนักจากสถานการณ์โควิด-19 พูดแบบนี้แล้วคงทำให้ใครหลายคนเห็นภาพกันนะครับ ว่าถ้าหากสถานการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ถดถอยจริงนั้นจะส่งผลต่อเศรษฐกิจประเทศไทยของเราอย่างไร