เงินเฟ้อญี่ปุ่นพุ่งอย่างต่อเนื่อง หลังราคาเชื้อเพลิงพุ่ง-เยนร่วง

กระทรวงกิจการภายในของประเทศญี่ปุ่น รายงานว่า ราคาพลังงานที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในรอบกว่า 40 ปี ส่งผลให้ดัชนี CPI พื้นฐานปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7 เมื่อเทียบเป็นรายปี และเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2563

ทั้งนี้กระทรวงกิจการภายในประเทศ และการสื่อสารของญี่ปุ่นได้ออกมาเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดราคาอาหารสดซึ่งมีความผันผวน ได้ปรับตัวขึ้น 0.8% ในเดือนมีนาคม เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 2 ปี โดยมีแรงหนุนมาจากต้นทุนพลังงาน และวัตถุดิบที่สูงขึ้น เนื่องจากสงครามในยูเครน และเงินเยนที่อ่อนค่าลงอย่างรุนแรงเป็นปัจจัยที่สร้างแรงกดดันด้านเงินเฟ้อครับ

ทางสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ราคาน้ำมันดิบ และต้นทุนเชื้อเพลิงอื่น ๆ ที่เพิ่มสูงขึ้นได้ผลักดันดัชนี CPI พื้นฐานขึ้น 0.1% ในปีงบประมาณ 2564 โดยเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 ปี

ส่วนกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้กล่าวว่า การอ่อนค่าลงของเงินเยนในขณะนี้ เกิดจากแรงหนุนของปัจจัยพื้นฐานภายในประเทศ และไม่มีความจำเป็นที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะต้องเปลี่ยนมาตรการทางการเงินให้เข้มงวดกว่าเดิม เพื่อทำให้สกุลเงินเยนแข็งค่าขึ้นในเวลานี้

นอกจากนี้ IMF ยังคาดการณ์ว่า แม้ผลกระทบจากการลดค่าธรรมเนียมโทรศัพท์เคลื่อนที่ในอดีตจะผลักดันให้อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ IMF ยังคงเชื่อมั่นว่าอัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่น จะเพิ่มขึ้นไม่ถึงระดับเป้าหมายที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้วางไว้ที่ 2% ในระยะเวลาอันใกล้นี้ แต่ขณะที่แนวโน้มเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นก็ได้เพิ่มแรงกดดันให้กับผู้กำหนดนโยบายในการผ่อนคลายภาระของภาคครัวเรือน ก่อนถึงการเลือกตั้งราชมนตรีสภา (House of Councillors) ซึ่งอาจจะมีขึ้นในเดือนกรกฎาคม โดยคาดกันว่านายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะของญี่ปุ่น จะเปิดเผยมาตรการเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้า

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนทุกท่านควรติดตามข่าวเศรษฐกิจต่างประเทศอย่างใกล้ชิด เพื่อที่จะได้เตรียมความพร้อมรับมือกับความผันผวนของค่าเงินที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตครับ