3 ข่าวสำคัญที่ต้องติดตาม ก่อนลงทุนในสัปดาห์นี้

จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เรารอคอยมานาน และตอนนี้ความผันผวนในตลาดมีค่อนข้างมาก ทั้งสงครามยูเครนกับรัสเซียในปัจจุบัน ที่ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาพูดคุยเพื่อยุติความขัดแย้ง ข่าวทั้งหมดนี้ล้วนเป็นข่าวที่เราทุกคนต้องติดตามกัน รวมถึงตัวเลขทางเศรษฐกิจด้วย ก่อนที่จะเราจะลงทุนในสัปดาห์นี้ครับ

ผมจึงรวบรวม 3 ข่าวสำคัญที่เราต้องรู้ ก่อนเทรดในสัปดาห์นี้มาให้อ่านกันครับ

1 สงครามรัสเซียกับยูเครน

ยังคงต้องติดตามกันอย่างต่อเนื่อง เพราะสงครามส่งผลต่อตลาดในสัปดาห์นี้ แต่ละประเทศมีความพยายามทางการทูตเพื่อยุติความขัดแย้ง ในขณะที่การโจมตีของรัสเซียยังดำเนินต่อไป

ส่วนประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ จะเข้าร่วมการประชุม NATO ในวันพุธนี้ และการประชุมสุดยอดของสหภาพยุโรปในช่วงกลางสัปดาห์นี้ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อประสานความร่วมมือครั้งใหม่กับพันธมิตรยุโรปครับ

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา โจ ไบเดน ได้เตือน สี จิ้นผิง ถึงผลที่ตามมาหากประเทศจีนให้การสนับสนุนกับทางรัสเซีย ส่วนจีนเองก็ไม่ได้ประณามการกระทำของรัสเซีย มีเพียงแสดงความกังวลเกี่ยวกับสงครามเท่านั้น

2 การแถลงจากธนาคารกลางสหรัฐฯ FED

ในวันจันทร์นี้เจอโรม พาวเวลล์ (ประธาน FED) จะพูดเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในการประชุมประจำปีของสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติ (National Association for Business Economics) และในวันพุธเจอโรม พาวเวลล์จะเข้าร่วมการอภิปรายออนไลน์ในการประชุมสุดยอดที่จัดโดยธนาคารเพื่อการชำระบัญชีระหว่างประเทศ (Bank for International Settlements)

ส่วนสัปดาห์นี้ปฏิทินเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาค่อนข้างเบา ที่จะแสดงรายงานตัวเลขคำสั่งซื้อสินค้าคงทน, จำนวนคนยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก, ยอดขายบ้าน รวมทั้งข้อมูลภาคบริการ และ PMI ภาคการผลิตครับ

3 ราคาน้ำมัน และตลาดหุ้นสหรัฐฯ

สัปดาห์ที่แล้วราคาน้ำมันลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 ทั้งน้ำมันเบรนท์ และน้ำมันดิบ WTI ที่ลดลงประมาณ 4% ปัจจุบันราคาน้ำมันผันผวน โดยแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี โดยได้แรงหนุนจากอุปทานจากผู้ค้าที่หลีกเลี่ยงน้ำมันจากรัสเซีย และน้ำมันคงคลังที่เหลือน้อยลงนั่นเองครับ

ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯนั้นได้พุ่งขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วหลังจากที่ Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2018 พร้อมกับการประเมินเศรษฐกิจไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ดีดตัวสูงขึ้นตาม และสัญญาณการยุติสงครามยังไม่ชัดเจน

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข่าวสำคัญ ๆ ที่ผมได้รวบรวมข้อมูลมาให้อ่าน ที่เราต้องติดตามกันต่อในสัปดาห์นี้ครับ