5 ข่าวสำคัญ ทำนักลงทุนเทขายทองคำ ราคาร่วงลงสู่ 1892 ดอลลาร์สหรัฐ (26 เม.ย. 65)

เช้าวันอังคารนี้ ทองคำยังวิ่งในลักษณะเป็นเทรนขาลงต่อเนื่องจากเมื่อวาน ราคาได้ดิ่งลงมาเทสที่ระดับ $1,892 เนื่องจากแรงซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น และนักลงทุนยังมีความกังวลว่า FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนหน้า ทำให้เงินบางส่วนถูกโยกไม่ยังตลาดหุ้น ทั้งดาวโจนส์, S&P 500 และ Nasdaq ล้วนมีแรงหนุนเข้ามา บวกกับข่าวอีลอน มัสก์ ประกาศซื้อหุ้นทวิตเตอร์มูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ด้วย และยังมีอีกหลายข่าวที่เป็นปัจจัยสำคัญเข้ามากดดันราคาทองคำด้วยเช่นกัน

ผมเลยสรุป 5 ข่าวสำคัญที่ทำให้นักลงทุนเทขายทองคำ มาให้อ่านกันดังนี้ครับ

1) วันจันทร์ที่ผ่านมาดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้น 0.57% ถือว่าดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีที่ 101.86 เนื่องจากการคาดการณ์ว่า FED จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อในเดือนหน้า บวกกับความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการล็อกดาวน์ของประเทศจีนจากสถานการณ์ COVID-19 ช่วยกระตุ้นแรงซื้อสกุลเงินปลอดภัยเพิ่มขึ้น

2) ตลาดหุ้นดัชนีดาวโจนส์บวกเพิ่มขึ้น 238.06 จุด หรือ +0.70%, ดัชนี S&P 500 +0.57% และดัชนี Nasdaq +1.29% โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนรีบเข้าซื้อในช่วงท้ายตลาด และข่าวหุ้นทวิตเตอร์พุ่งขึ้น 5.66% หลังจากอีลอน มัสก์ ประธานบริหารของบริษัท Tesla ประกาศซื้อหุ้นทวิตเตอร์มูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ก็ถือเป็นข่าวกระแสที่เข้ามากดดันราคาทองคำเช่นกันครับ

3) สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 3.53 ดอลลาร์ หรือ -3.5% ซึ่งถือเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2022 เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การที่ประเทศจีนล็อกดาวน์เมืองเซี่ยงไฮ้เป็นเวลานาน จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และความต้องการใช้น้ำมันในอนาคต

4) บริษัทโททาลเอนเนอร์ยีส์ของฝรั่งเศส ได้เช่าเรือบรรทุกน้ำมันเพื่อขนส่งน้ำมันดิบจากสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ (UAE) เพื่อส่งไปยังยุโรปในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมนี้ ถือเป็นการขนส่งน้ำมันดิบจากสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์สู่ยุโรปเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปีครับ

5) กองทุน SPDR ซึ่งเป็นกองทุนที่ลงทุนในทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถือครองทองคำลดลง -2.90 ตัน สู่ระดับ 1,101.23 ตัน เป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่าสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำถูกเทขายนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เราควรติดตามสถานการณ์ตลาดโลกอย่างใกล้ชิด รวมถึงเหตุการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ยังเดินหน้าต่อไป เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดแรงผันผวนของราคาสินทรัพย์ปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากการลงทุนมีความเสี่ยง เราต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนลงทุน เจอกันใหม่โอกาสหน้า ผมจะนำข่าวมาสรุปให้อ่านแบบนี้เรื่อย ๆ สำหรับวันนี้สวัสดีครับ