5 ข่าวสำคัญ กดดันนักลงทุนเทขายทองคำ ทำราคาดิ่งลงสู่ระดับ 1916 ดอลลาร์สหรัฐ

เปิดตลาดมาที่ราคา $1,923 เช้าวันนี้ทองคำวิ่งในลักษณะเป็นเทรนขาลงชัดเจน ดิ่งลงมาเทสที่ระดับ $1,916 ณ เวลาที่เขียน เนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมานักลงทุนมีความวิตกกังวลในข่าว FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมที่จะถึงในเร็ว ๆ นี้ รวมไปถึงแรงซื้อพันธบัตรในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้ดัชนีดอลลาร์พุ่งแตะ 101.33 ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์สงครามรัสเซียยูเครน จึงส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี บวกขึ้นตามไปด้วย และยังมีอีกหลายข่าวที่เป็นปัจจัยเข้ามากดดันราคาทองคำด้วยเช่นกัน

วันจันทร์นี้ผมเลยสรุป 5 ข่าวสำคัญที่ทำให้นักลงทุนเทขายทองคำ มาให้อ่านกันดังนี้ครับ

1) วันศุกร์ที่ผ่านมา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 2 ปี บวกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.789% ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2018 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ก็กลับตัวบวกขึ้นมาเช่นกัน

2) วันศุกร์ที่ผ่านมาดัชนีดอลลาร์บวกแตะ 101.33 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มีนาคม 2020 ถือว่าบวกเพิ่มขึ้น 0.58% ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า FED จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ส่วนค่าเงินปอนด์ได้ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2020 ที่ 1.2906 ดอลลาร์ ร่วงลงเกือบ 0.5% หลังจากการรายงานยอดค้าปลีกของประเทศอังกฤษในเดือนมีนาคมที่ตัวเลขจริงออกมาแย่เกินคาด และค่าเงินยูโรก็อ่อนค่าลงเช่นกัน หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่าอาจจำเป็นต้องลดแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจลง

3) Fed Funds Futures คาดการณ์ว่ามีโอกาสมากกว่า 80% ที่ FED จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก 1.5% สู่ระดับ 2% - 2.25% ภายในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 26-27 พฤษภาคมนี้

4) Steve Englander หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์อัตราแลกเปลี่ยนในกลุ่ม G10 เชื่อว่าเงินดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แต่ก็มีแนวโน้มว่าจะอ่อนค่าลงในช่วงที่ FED ขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเฉพาะหากธนาคารกลางประเทศอื่น ๆ ดำเนินนโยบายในเชิง Hawkish เพื่อชะลอการเติบโตทางเศรษฐกิจลง

5) รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้กล่าวในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า สหรัฐฯ ควรพิจารณาในการดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศจีน เพราะการลดภาษีดังกล่าวอาจส่งผลให้เงินเฟ้อของสหรัฐฯ ลดลงได้บ้าง หลังจากที่เงินเฟ้อแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี

อย่างไรก็ตาม เราควรติดตามสถานการณ์ตลาดโลกอย่างใกล้ชิด รวมถึงเหตุการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนที่ยังเดินหน้าต่อไป เพราะถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดแรงผันผวนของราคาสินทรัพย์ปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากการลงทุนมีความเสี่ยง เราต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนลงทุน เจอกันใหม่โอกาสหน้า ผมจะนำข่าวมาสรุปให้อ่านแบบนี้เรื่อย ๆ สำหรับวันนี้สวัสดีครับ