List of content

    26 กราฟแท่งเทียนที่ควรรู้ เพื่อหาสัญญาณในการทำกำไร


    26 กราฟแท่งเทียนที่ควรรู้ เพื่อหาสัญญาณในการทำกำไร!

    Forex มีกลยุทธ์การเทรดอยู่หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเทรดด้วย Indicator การเทรดด้วยปัจจัยพื้นฐาน รวมไปถึงการเทรดด้วยเทคนิคคอล ซึ่งกราฟแท่งเทียนก็เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การเทรดของเทคนิคคอล ที่สามารถใช้เพียงกลยุทธ์เดียว แล้วเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในวันนี้ทางทีมงาน Thaiforexreview จะพาทุกคนมารู้จักกับ 26 กราฟแท่งเทียน ว่ามีอะไรบ้าง แต่ละกราฟบ่งบอกอะไร และมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน สามารถติดตามได้ในบทความนี้ครับ

     

    กราฟแท่งเทียน คืออะไร?

    กราฟแท่งเทียน (Candle Stick) คือ กราฟที่คอยบ่งบอกการเคลื่อนไหวของราคา โดยกราฟแท่งเทียนถูกคิดค้นขึ้นโดยพ่อค้าชาวญี่ปุ่นเมื่อหลายร้อยปีก่อน ชื่อว่า  Honma Munehisa

    ซึ่งกราฟรูปแบบแท่งเทียนสามารถให้ข้อมูลได้ทั้งราคาเปิด, ราคาปิด, จุดสูงสุด, จุดต่ำสุด และระยะการเคลื่อนที่ของราคา ซึ่งมีประโยชน์ต่อการวิเคราะห์ราคาเป็นอย่างมาก 

    ในปัจจุบันกราฟแท่งเทียน ถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์ราคาเพื่อทำการซื้อขายในตลาดการเงินกันอย่างแพร่หลาย เนื่องด้วยประโยชน์ในด้านข้อมูลที่ครบถ้วน และจากรูปลักษณ์ที่กราฟแสดงออกมา ก็ทำให้เห็นถึง “การกระทำของราคา” หรือ “Price Action” ซึ่งเป็นเทคนิคการวิเคราะห์การเคลื่อนที่ของราคาด้วยแท่งเทียน

     

    ส่วนประกอบของกราฟแท่งเทียน

    บางคนอาจจะสงสัยว่า กราฟแท่งเทียน เป็นแค่เทคนิค แล้วมีส่วนประกอบอย่างไร ก็อย่างที่กล่าวไปข้างต้นครับว่า กราฟแท่งเทียน คือ การสะท้อนการกระทำของผู้เล่นในตลาดที่ออกมาในรูปแบบของ “แท่งเทียน” โดยแท่งเทียนจะมีส่วนประกอบ ดังนี้ 

    ส่วนประกอบของแท่งเทียน

    1. High คือ จุดที่ราคาเคยขึ้นไป “สูงสุด”

    2. Low คือ จุดที่ราคาเคยลงไป “ต่ำสุด”

    3. Open คือ “จุดที่ซื้อขายกันครั้งแรก” ของแท่งเทียนใน Timeframe นั้น ๆ

    4. Close คือ “จุดที่ปิดการซื้อขาย” ของแท่งเทียนใน Timeframe นั้น ๆ

    5. Candle Body คือ ส่วนลำตัวของแท่งเทียน เป็นช่วงระยะห่างของราคาเปิด (Open) และราคาปิด (Close)

    6. Candle Wick คือ ส่วนไส้เทียน เป็นส่วนที่ราคาเคยได้ไปทำราคาสูงสุด (High) และต่ำสุด (Low) เอาไว้

    โดยกราฟแท่งเทียน (กราฟแท่งเทียน) สามารถแบ่งเป็นขาขึ้น (Bullish Candle Stick) และขาลง (Bearish Candle Stick) จากการแบ่งสี ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว แท่งเทียน “ขาขึ้น” จะใช้เป็นสีเขียว และแท่งเทียน “ขาลง” จะใช้เป็นสีแดง ตามรูปตัวอย่างข้างต้น 

     

    รูปแบบสำคัญของกราฟแท่งเทียน

    กราฟแท่งเทียน นั้นมีอยู่หลายรูปแบบมาก โดยแต่ละตัวก็จะมีลักษณะและความหมายที่แตกต่างกันออกไป หากเทรดเดอร์สามารถที่จะเข้าใจได้ว่าการกระทำของแท่งเทียนแต่ละแท่งคืออะไร ก็สามารถทำให้การเทรดของเทรดเดอร์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยทางทีมงานได้รวบรวมรูปแบบที่พบได้บ่อยและนิยมใช้ในการวิเคราะห์มาให้ 26 คู่ ดังนี้

    1. Piercing Pattern VS Dark Cloud Cover

    แท่งเทียน Piercing Pattern กับ Dark Cloud Cover

     

    Piercing Pattern (ขึ้น)

    Dark Cloud Cover (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้น จากการที่แท่งสีเขียวกลับตัวขึ้นมาปิดสูงกว่าครึ่งของแท่งสีแดง 

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวลง จากการที่แท่งสีแดงร่วงลงมาปิดต่ำกว่าครึ่งของแท่งสีเขียวก่อนหน้า

     

    2. Morning star pattern VS Bearish Evening Star

    แท่งเทียน Morning star pattern VS Bearish Evening Star

     

    Morning star pattern (ขึ้น)

    Bearish Evening Star (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้น จากการเกิดแท่งเทียน Doji ขึ้นที่บริเวณแนวรับ และแท่งเทียนสีเขียวกลับตัวขึ้นมากลืนกินแท่ง Doji และปิดสูงกว่าครึ่งของแท่งสีแดง

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวลง จากการเกิดแท่งเทียน Doji ขึ้นที่บริเวณแนวต้าน และแท่งเทียนสีแดงกลับตัวลงมากลืนกินแท่ง Doji และปิดต่ำกว่าครึ่งของแท่งสีเขียว

     

    3. Morning Doji star pattern VS Bearish Evening Doji Star

    แท่งเทียน Morning doji star pattern กับ Bearish Evening Doji Star

     

    Morning Doji star pattern (ขึ้น)

    Bearish Evening Doji Star (ลง)

    รูปแบบนี้จะคล้าย ๆ กับรูปแบบ Morning Star เป็นรูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้น จากการเกิดแท่งเทียน Doji ขึ้นที่บริเวณแนวรับ และแท่งเทียนสีเขียวกลับตัวขึ้นมากลืนกินแท่ง Doji และปิดสูงกว่าครึ่งของแท่งสีแดง แต่สิ่งที่แตกต่างจาก Morning Star คือ มีโอกาสกลับตัวขึ้นมากกว่านั่นเอง

    รูปแบบนี้จะคล้าย ๆ กับรูปแบบ Evening Star เป็นรูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวลง จากการเกิดแท่งเทียน Doji ขึ้นที่บริเวณแนวต้าน และแท่งเทียนสีแดงกลับตัวลงมากลืนกินแท่ง Doji และปิดต่ำกว่าครึ่งของแท่งสีเขียว แต่สิ่งที่แตกต่างจาก Evening Star คือ มีโอกาสกลับตัวลงมากกว่านั่นเอง

     

    4. Bullish Engulfing VS Bearish Engulfing

    แท่งเทียน Bullish Engulfing กับ Bearish engulfing

    Bullish Engulfing (ขึ้น)

    Bearish Engulfing (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้นและแรงซื้อที่เข้ามาเป็นจำนวนมาก จากการที่แท่งสีเขียวกลับตัวขึ้นมาปิดสูงกว่าแท่งสีแดงก่อนหน้า โดยในภาษาไทยนักลงทุนมักจะเรียกแท่งเทียนนี้ว่า “แท่งเทียนกลืนกิน”

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวลงและแรงขายที่เข้ามาเป็นจำนวนมาก จากการที่แท่งสีแดงกลับตัวลงมาปิดต่ำกว่าแท่งสีเขียวก่อนหน้า

     

    5. Bullish Harami VS Bearish Harami

    แท่งเทียน Bullish Harami กับ Bearish Harami

     

    Bullish Harami (ขึ้น)

    Bearish Harami (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณความไม่แน่นอนของราคา ซึ่งแนะนำให้รอสัญญาณที่ชัดเจนกว่านี้ ในกรณีมองหน้า Buy แท่งต่อไปจำเป็นจะต้องเป็นแท่งสีเขียวและปิดสูงกว่าสองแท่งก่อนหน้า

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณความไม่แน่นอนของราคา ซึ่งแนะนำให้รอสัญญาณที่ชัดเจนกว่านี้ ในกรณีมองหน้า Sell แท่งต่อไปจำเป็นจะต้องเป็นแท่งสีแดงและปิดต่ำกว่าสองแท่งก่อนหน้า 

     

    6. Bullish Harami Cross VS Bearish Harami Cross 

    แท่งเทียน Bullish Harami Cross กับ Bearish Harami Cross 

    Bullish Harami Cross (ขึ้น)

    Bearish Harami Cross (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลงเช่นเดียวกันกับรูปแบบ Bullish Harami ที่แสดงถึงสัญญาณความไม่แน่นอนของราคา ซึ่งแนะนำให้รอสัญญาณที่ชัดเจนกว่านี้ ในกรณีมองหน้า Buy แท่งต่อไปจำเป็นจะต้องเป็นแท่งสีเขียวและปิดสูงกว่าสองแท่งก่อนหน้า 

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้นเช่นเดียวกันกับรูปแบบ Bearish Harami ที่แสดงถึงสัญญาณความไม่แน่นอนของราคา ซึ่งแนะนำให้รอสัญญาณที่ชัดเจนกว่านี้ ในกรณีมองหน้า Sell แท่งต่อไปจำเป็นจะต้องเป็นแท่งสีแดงและปิดต่ำกว่าสองแท่งก่อนหน้า 

     

    7. Bullish Doji Star VS Bearish Doji Star

    แท่งเทียน Bullish Doji star กับ Bearish Doji star

     

    Bullish Doji Star (ขึ้น)

    Bearish Doji Star (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้นที่ยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากว่า ยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนหลังจากที่เกิดแท่งเทียน Doji ซึ่งแนะนำว่า ให้รอแท่งเทียนสีเขียวปรากฏขึ้น โดยจะต้องปิดสูงกว่าครึ่งของแท่งสีแดงก่อนหน้า ถึงจะมีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นไป

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวลงที่ยังไม่สมบูรณ์ เนื่องจากว่า ยังไม่มีสัญญาณที่ชัดเจนหลังจากที่เกิดแท่งเทียน Doji ซึ่งแนะนำว่า ให้รอแท่งเทียนสีแดงปรากฏขึ้น โดยจะต้องปิดต่ำกว่าครึ่งของแท่งสีเขียวก่อนหน้า ถึงจะมีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวลงไป

     

    8. Bullish Dragonfly Doji VS Bearish Dragonfly Doji 

    แท่งเทียน Bullish Dragonfly Doji กับ Bearish Dragonfly Doji 

     

    Bullish Dragonfly Doji (ขึ้น)

    Bearish Dragonfly Doji (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้น โดยรูปแบบนี้มักจะเกิดในบริเวณของแนวรับ ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่เข้ามา ถ้าหากว่า แท่งต่อไปเป็นสีเขียว ก็มีโอกาสที่ราคาจะเกิดการกลับตัวขึ้นได้

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวลง โดยรูปแบบนี้มักจะเกิดในบริเวณของแนวต้าน ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงแรงขายที่เข้ามา ถ้าหากว่า แท่งต่อไปเป็นสีแดง ก็มีโอกาสที่ราคาจะเกิดการกลับตัวลงได้

     

    9. Hammer VS Hanging Man 

    แท่งเทียน Hammer กับ Hanging Man

     

    Hammer (ขึ้น)

    Hanging Man (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้น ซึ่งมีลักษณะและหลักการเหมือนกันกับรูปแบบ Bullish Dragonfly Doji ที่จะแสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่เข้ามา และถ้าหากว่า แท่งต่อไปเป็นสีเขียว ก็มีโอกาสที่ราคาจะเกิดการกลับตัวขึ้นได้

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวลง ซึ่งมีลักษณะและหลักการเหมือนกันกับรูปแบบ Bearish Dragonfly Doji ที่แสดงให้เห็นถึงแรงขายที่เข้ามา และถ้าหากว่า แท่งต่อไปเป็นสีแดง ก็มีโอกาสที่ราคาจะเกิดการกลับตัวลงได้

     

    10. Bullish Inverted Hammer VS Shooting Star

    แท่งเทียน Bullish Inverted Hammer กับ Shooting Star

     

    Bullish Inverted Hammer (ขึ้น)

    Shooting Star (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้น โดยรูปแบบนี้มักจะเกิดขึ้นที่บริเวณแนวรับ ซึ่งถ้าหากว่า เกิดแท่งเทียนสีเขียวตามมา จะเป็นการยืนยันว่ามีโอกาสสูงที่ราคาจะเกิดการกลับตัวขึ้น

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวลง โดยรูปแบบนี้มักจะเกิดขึ้นที่บริเวณแนวต้าน ซึ่งถ้าหากว่า เกิดแท่งเทียนสีแดงตามมา จะเป็นการยืนยันว่ามีโอกาสสูงที่ราคาจะเกิดการกลับตัวลง

     

    11. Bullish Belt Hold VS Bearish Belt Hold

    แท่งเทียน Bullish Belt Hold กับ Bearish Belt Hold

     

    Bullish Belt Hold (ขึ้น)

    Bearish Belt Hold (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้น จากการที่แท่งสีเขียวกลับตัวขึ้นมาปิดสูงกว่าแท่งสีแดง 2-3 แท่งก่อนหน้า แนะนำให้รอเกิดแท่งสีเขียวที่ปิดสูงขึ้นมาอีกแท่ง เพื่อเป็นการยืนยันการเปลี่ยนแนวโน้ม

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวลง จากการที่แท่งสีแดงกลับตัวขึ้นมาปิดต่ำกว่าแท่งสีเขียว 2-3 แท่งก่อนหน้า แนะนำให้รอเกิดแท่งสีแดงที่ปิดต่ำลงมาอีกแท่ง เพื่อเป็นการยืนยันการเปลี่ยนแนวโน้ม

     

    12. Bullish Gravestone Doji VS Bearish Gravestone Doji 

    แท่งเทียน Bullish Gravestone Doji กับ Bearish Gravestone Doji

     

    Bullish Gravestone Doji (ขึ้น)

    Bearish Gravestone Doji (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้น จากการที่เกิดแท่ง Doji หลังแท่งสีแดง เป็นการบ่งบอกว่า ฝั่งขายกำลังอ่อนแรง และอาจจะกำลังมีแรงซื้อเข้ามา แนะนำให้รอแท่งสีเขียวเกิดขึ้นมาปิดสูงกว่าแท่งสีแดงก่อนหน้า เพื่อยืนยันการเปลี่ยนแนวโน้ม

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวลง จากการที่เกิดแท่ง Doji หลังแท่งสีเขียว เป็นการบ่งบอกว่า ฝั่งซื้อกำลังอ่อนแรง และอาจจะกำลังมีแรงขายเข้ามา แนะนำให้รอแท่งสีแดงเกิดขึ้นมาปิดต่ำกว่าแท่งสีเขียวก่อนหน้า เพื่อยืนยันการเปลี่ยนแนวโน้ม

     

    13. Three Inside Up VS Three Inside Down

    แท่งเทียน Three Inside Up กับ Three Inside Down

     

    Three Inside Up (ขึ้น)

    Three Inside Down (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้น จากการที่แท่งสีเขียวกลับตัวขึ้นมาปิดสูงกว่าแท่งสีแดงก่อนหน้า โดยมีกุญแจสำคัญอยู่ที่แท่งสีเขียวแท่งแรกได้กระโดดขึ้นมาเปิดเหนือกว่าราคาปิดของสีแดงก่อนหน้า หรือเรียกว่า การเกิด Gap เนื่องจากมีแรงซื้อจำนวนมากเข้ามาสู่ตลาด

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวลง จากการที่แท่งสีแดงร่วงลงมาปิดต่ำกว่าแท่งสีเขียวก่อนหน้า โดยมีกุญแจสำคัญอยู่ที่แท่งสีแดงแท่งแรกได้ตัดลงมาเปิดต่ำกว่าราคาปิดของสีเขียวก่อนหน้า หรือเรียกว่า การเกิด Gap เนื่องจากมีแรงขายจำนวนมากเข้ามาสู่ตลาด

     

    14. Tweezer Bottoms VS Tweezer Tops

    แท่งเทียน Tweezer Bottoms กับ Tweezer Tops

     

    Tweezer Bottoms (ขึ้น)

    Tweezer Tops (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้น จากการที่แท่งสีเขียวกลับตัวขึ้นมาปิดเท่ากันกับแท่งสีแดงก่อนหน้า โดยส่วนมากรูปแบบนี้จะเกิดที่บริเวณแนวรับ ซึ่งจะบ่งบอกถึงสัญญาณการกลับตัวเป็นขาขึ้นได้อย่างดี

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวลง จากการที่แท่งสีแดงร่วงลงมาปิดต่ำเท่ากันกับแท่งสีเขียวก่อนหน้า โดยส่วนมากรูปแบบนี้จะเกิดที่บริเวณแนวต้าน ซึ่งจะบ่งบอกถึงสัญญาณการกลับตัวเป็นขาลงได้อย่างดี

     

    15. Bullish Abandoned Baby VS Bearish Abandoned Baby

    แท่งเทียน Bullish Abandoned Baby กับ Bearish Abandoned Baby

     

    Bullish Abandoned Baby (ขึ้น)

    Bearish Abandoned Baby (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้น โดยรูปแบบนี้จะคล้ายกับรูปแบบ Morning Doji Star Pattern แต่แตกต่างกันตรงที่ รูปแบบนี้จะมีการเกิด Gap เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งแท่ง Doji จะต้องเกิด Gap หลังจบแท่งแดง และแท่งเขียวจะต้องเกิด Gap หลังจบแท่ง Doji ลักษณะนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า แนวโน้มขาลงกำลังจะเปลี่ยนเป็นขาขึ้นนั่นเอง

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวลง โดยรูปแบบนี้จะคล้ายกับรูปแบบ Bearish Evening Doji Star แต่แตกต่างกันตรงที่ รูปแบบนี้จะมีการเกิด Gap เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งแท่ง Doji จะต้องเกิด Gap หลังจบแท่งเขียว และแท่งแดงจะต้องเกิด Gap หลังจบแท่ง Doji ลักษณะนี้เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า แนวโน้มขาขึ้นกำลังจะเปลี่ยนเป็นขาลงนั่นเอง

     

    16. Bullish Marubozu VS Bearish Marubozu

    แท่งเทียน Bullish Marubozu กับ Bearish Marubozu

     

    Bullish Marubozu (ขึ้น)

    Bearish Marubozu (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้นหรือการขึ้นไปต่อของราคาอย่างแข็งแกร่ง สังเกตได้จากการที่แท่งเทียนไม่มีไส้เทียนเลย 

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวลงหรือการลงไปต่อของราคาอย่างแข็งแกร่ง สังเกตได้จากการที่แท่งเทียนไม่มีไส้เทียนเลย 

     

    17. Bullish Spinning Top VS Bearish Spinning Top

    แท่งเทียน Bullish Spinning Top VS Bearish Spinning Top

     

    Bullish Spinning Top (ขึ้น)

    Bearish Spinning Top (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณความไม่แน่นอนของราคา บ่งชี้ว่าแรงซื้อและแรงขายมีปริมาณเท่า ๆ กัน ไม่มีความได้เปรียบหรือเสียเปรียบไปกว่ากัน ควรรอให้เกิดแท่งสีเขียวที่ปิดสูงกว่าไส้บนของ Bullish Spinning Top เพื่อเป็นการยืนยันการกลับตัวของราคา

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณความไม่แน่นอนของราคา บ่งชี้ว่าแรงซื้อและแรงขายมีปริมาณเท่า ๆ กัน ไม่มีความได้เปรียบหรือเสียเปรียบไปกว่ากัน ควรรอให้เกิดแท่งสีแดงที่ปิดต่ำกว่าไส้ล่างของ Bearish Spinning Top เพื่อเป็นการยืนยันการกลับตัวของราคา

     

    18. Bullish Long-legged Doji VS Bearish Long-legged Doji

    แท่งเทียน Bullish Long-legged Doji VS Bearish Long-legged Doji

     

    Bullish Long-legged Doji (ขึ้น)

    Bearish Long-legged Doji (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้นที่ไม่มีความแน่นอน เนื่องจากแท่งเทียน Doji เป็นตัวแทนแห่งความไม่แน่นอนของราคา จึงแนะนำให้รอเกิดแท่งสีเขียวปิดสูงกว่าครึ่งของแท่งเทียนก่อนหน้าแท่ง Doji หน้าเพื่อเป็นการยืนยันการเปลี่ยนแนวโน้ม

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวลงที่ไม่มีความแน่นอน เนื่องจากแท่งเทียน Doji เป็นตัวแทนแห่งความไม่แน่นอนของราคา จึงแนะนำให้รอเกิดแท่งสีแดงปิดต่ำกว่าครึ่งของแท่งเทียนก่อนหน้าแท่ง Doji เพื่อเป็นการยืนยันการเปลี่ยนแนวโน้ม

     

    19. Bullish Kicking Pattern VS Bearish Kicking Pattern

    แท่งเทียน Bullish Kicking Pattern กับ Bearish Kicking Pattern

     

    Bullish Kicking Pattern (ขึ้น)

    Bearish Kicking Pattern (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้น จากการที่แท่งสีเขียวกลับตัวขึ้นมาปิดสูงกว่าแท่งสีแดงก่อนหน้า พร้อมกับเกิด Gap ขึ้น แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อจำนวนมากที่เข้ามาในตลาดและพร้อมที่จะหนุนราคาให้ขึ้นไปต่อ 

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวลง จากการที่แท่งสีแดงร่วงลงมาปิดต่ำแท่งสีเขียวก่อนหน้า พร้อมกับเกิด Gap ขึ้น แสดงให้เห็นถึงแรงขายจำนวนมากที่เข้ามาในตลาดและพร้อมที่จะกดดันราคาให้ลงไปต่อ 

     

    20. 3 Bullish Soldier VS 3 Bearish Soldier

    แท่งเทียน 3 Bullish Soldier VS 3 Bearish Soldier

     

    3 Bullish Soldier (ขึ้น)

    3 Bearish Soldier (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลงหรือขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้นหรือไปต่อ จากการเกิดแท่งสีเขียว 3 แท่งติดกัน โดยมีการทำ Higher High ที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ 

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลงหรือขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวลงหรือไปต่อ จากการเกิดแท่งสีแดง 3 แท่งติดกัน โดยมีการทำ Lower Low ที่ต่ำลงเรื่อย ๆ

     

    21. Bullish On Neck Line VS Bearish On Neck Line

    แท่งเทียน Bullish On Neck Line กับ Bearish On Neck Line

     

    Bullish On Neck Line (ขึ้น)

    Bearish On Neck Line (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการขึ้นไปต่อของราคา จากการที่แท่งสีแดงกระโดดขึ้นไปเปิดราคาเหนือกว่าราคาปิดของแท่งก่อนหน้า โดยถ้าหากว่า เกิดแท่งเทียนขึ้นอีกแท่ง แต่ไม่สามารถปิดต่ำกว่าแท่งสีแดงได้ ก็มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวขึ้นไปต่อนั่นเอง

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการลงไปต่อของราคา จากการที่แท่งสีเขียวกระโดดลงไปเปิดราคาต่ำกว่าราคาปิดของแท่งก่อนหน้า โดยถ้าหากว่า เกิดแท่งเทียนขึ้นอีกแท่ง แต่ไม่สามารถปิดต่ำกว่าแท่งสีเขียวได้ ก็มีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลงไปต่อนั่นเอง

     

    22. Bullish Separating Lines VS Bearish Separating Lines

    แท่งเทียน Bullish Separating Lines VS Bearish Separating Lines

     

    Bullish Separating Lines (ขึ้น)

    Bearish Separating Lines (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการขึ้นไปต่อของราคา แต่ทั้งนี้การที่กราฟจะเป็นแบบในตัวอย่างได้ ราคาจะต้องเกิด Gap อย่างรุนแรงเพื่อกระโดดขึ้นไปเปิดราคาเหนือกว่าแท่งเทียนสีแดงก่อนหน้า เป็นการแสดงถึงแรงซื้อจำนวนมากเข้ามาหนุนให้ราคาขึ้นไปต่อนั่นเอง

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการลงไปต่อของราคา แต่ทั้งนี้การที่กราฟจะเป็นแบบในตัวอย่างได้ ราคาจะต้องเกิด Gap อย่างรุนแรงเพื่อกระโดดลงไปเปิดราคาต่ำกว่าแท่งเทียนสีเขียวก่อนหน้า เป็นการแสดงถึงแรงขายจำนวนมากเข้ามากดดันให้ราคาลงไปต่อนั่นเอง

     

    23. Bullish Tri Star VS Bearish Tri Star

    แท่งเทียน Bullish Tri Star VS Bearish Tri Star

     

    Bullish Tri Star (ขึ้น)

    Bearish Tri Star (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณความไม่แน่นอนของราคา ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่า ในช่วงนั้นมีปริมาณการซื้อขายในตลาดที่ต่ำ และไม่มีฝั่งไหนได้เปรียบหรือเสียเปรียบไปกว่ากัน จึงทำให้เกิด Doji เป็นจำนวนมากนั่นเอง แนำนำให้รอเกิดแท่งสีเขียวที่ปิดสูงกว่าแท่ง Doji ทั้ง 3 อันขึ้นไปได้ก่อน

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณความไม่แน่นอนของราคา ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่า ในช่วงนั้นมีปริมาณการซื้อขายในตลาดที่ต่ำ และไม่มีฝั่งไหนได้เปรียบหรือเสียเปรียบไปกว่ากัน จึงทำให้เกิด Doji เป็นจำนวนมากนั่นเอง แนำนำให้รอเกิดแท่งสีแดงที่ปิดต่ำกว่าแท่ง Doji ทั้ง 3 อันลงไปได้ก่อน

     

    24. Long Lower Shadow VS Long Upper Shadow

    แท่งเทียน Long Lower Shadow กับ Long Upper Shadow

     

    Long Lower Shadow (ขึ้น)

    Long Upper Shadow (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้น จากการที่แท่งสีเขียวกลับตัวขึ้นมาปิด และทิ้งไส้เทียนลากยาวขึ้นไป เป็นการบ่งบอกว่า ณ แนวรับดังกล่าว มีแรงซื้อเป็นจำนวนมากจนทำให้ราคาเกิดการปฏิเสธการลงไปต่อนั่นเอง ซึ่งรูปแบบนี้ใช้เป็นการยืนยันการกลับตัวขึ้นได้อย่างดี

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวลง จากการที่แท่งสีแดงกลับตัวขึ้นมาปิด และทิ้งไส้เทียนลากยาวลงมา เป็นการบ่งบอกว่า ณ แนวต้านดังกล่าว มีแรงขายเป็นจำนวนมากจนทำให้ราคาเกิดการปฏิเสธการขึ้นไปต่อนั่นเอง ซึ่งรูปแบบนี้ใช้เป็นการยืนยันการกลับตัวลงได้อย่างดี

     

    25. Bullish Meeting Line VS Bearish Meeting Line

    แท่งเทียน Bullish Meeting Line กับ Bearish Meeting Line

     

    Bullish Meeting Line (ขึ้น)

    Bearish Meeting Line (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้น จากการที่แท่งสีเขียวได้ปิดสูงเท่ากับราคาปิดของแท่งสีแดงก่อนหน้า แต่การที่จะเกิดแบบนี้ได้ ราคาจะต้องเกิด Gap กระโดดลงไปเปิดราคาที่ต่ำกว่าราคาปิดของแท่งสีแดงนั่นเอง จึงแนะนำให้รอเกิดแท่งสีเขียวขึ้นมาปิดสูงกว่าแท่งสีแดงก่อนหน้าให้ได้ก่อน ถึงจะสามารถยืนยันการกลับตัวได้

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวลง จากการที่แท่งสีแดงได้ปิดสูงเท่ากับราคาปิดของแท่งสีเขียวก่อนหน้า แต่การที่จะเกิดแบบนี้ได้ ราคาจะต้องเกิด Gap กระโดดขึ้นไปเปิดราคาที่เหนือกว่าราคาปิดของแท่งสีเขียวนั่นเอง จึงแนะนำให้รอเกิดแท่งสีแดงลงมาปิดต่ำกว่าแท่งสีเขียวก่อนหน้าให้ได้ก่อน ถึงจะสามารถยืนยันการกลับตัวได้

     

    26. Bullish Stick Sandwich VS Bearish Stick Sandwich

    แท่งเทียน Bullish Stick Sandwich กับ Bearish Stick Sandwich

     

    Bullish Stick Sandwich (ขึ้น)

    Bearish Stick Sandwich (ลง)

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาลง ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวขึ้น แต่ไม่ได้มีความแน่นอนมากนัก เนื่องจากว่า แท่งที่สามลงมาปิดเท่ากับหรือใกล้เคียงกับแท่งแรก ซึ่งราคาอาจจะร่วงลงไปต่อได้ จึงแนะนำให้ยืนยันอีกแท่งด้วยแท่งเทียนสีเขียว ที่มีราคาเปิดเหนือกว่าราคาปิดของแท่งที่สามที่มีรูปลักษณ์เป็น Bearish Marubozu

    รูปแบบแท่งเทียนในเทรนด์ขาขึ้น ที่แสดงถึงสัญญาณการกลับตัวลง แต่ไม่ได้มีความแน่นอนมากนัก เนื่องจากว่า แท่งที่สามขึ้นมาปิดเท่ากับหรือใกล้เคียงกับแท่งแรก ซึ่งราคาอาจจะขึ้นไปต่อได้ จึงแนะนำให้ยืนยันอีกแท่งด้วยแท่งเทียนสีแดง ที่มีราคาเปิดต่ำกว่าราคาปิดของแท่งที่สามที่มีรูปลักษณ์เป็น Bullish Marubozu



    การใช้งานกราฟแท่งเทียน

    การใช้กราฟแท่งเทียนในการเทรดนั้น จำเป็นที่จะต้องมีพื้นฐานในเรื่องของแนวรับ-แนวต้านมาก่อน เนื่องจากว่า การเทรดด้วยกราฟแท่งเทียนเป็นการสังเกต “การกระทำของราคา” ใน “จุดนัยสำคัญ” อย่างแนวรับ-แนวต้านนั่นเองครับ ถ้าหากว่าเทรดเดอร์ไม่มีพื้นฐานในเรื่องของแนวรับ-แนวต้านมาก่อน เทรดเดอร์ก็อาจจะเข้าออเดอร์ทุกครั้งที่เห็นกราฟแท่งเทียน ซึ่งอาจจะส่งผลให้เทรดผิดพลาดจนนำไปสู่การล้างพอร์ตได้ 

    ตัวอย่างการเทรดกราฟแท่งเทียนร่วมกับแนวรับ-แนวต้าน

    ตัวอย่างการเทรดกราฟแท่งเทียนร่วมกับแนวรับ-แนวต้าน

    จากตัวอย่างกราฟ XAU/USD TF 4H จะสังเกตได้ว่าราคามีแนวโน้มเป็นขาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในภาพที่ได้มีการไฮไลท์แท่งเทียนไว้ คือ แท่งเทียน Bullish Engulfing หรือที่เรียกว่า “แท่งเทียนกลืนกิน” ซึ่งเป็นแท่งสีเขียว ถือเป็นสัญลักษณ์ของขาขึ้น ซึ่งเกิดขึ้นเหลังจากที่ราคาได้มีการร่วงลงและพักตัวในช่วงแนวรับพอดี โดยจะสังเกตได้ว่า ก่อนหน้าการเกิดแท่งเทียน Engulfing มีการเกิดแท่งเทียนรูปแบบของการกลับตัวอยู่หลายแห่ง ซึ่งแสดงถึงแรงเข้าซื้อจำนวนมากและพร้อมที่จะกลับตัวเป็นแนวโน้มขาขึ้น เทรดเดอร์สามารถที่จะเข้า Follow Buy หลังจากแท่งเทียน Engulfing ปิดลง

     

    ข้อควรระวังในการใช้ กราฟแท่งเทียน 

    เนื่องจากการที่กราฟแท่งเทียนเป็นเทคนิคที่ใช้ในการดู “การกระทำของราคา” ในช่วงแนวรับ-แนวต้าน เพื่อที่จะดูจุดกลับตัวของราคา ซึ่งในบางครั้ง กราฟแท่งเทียนก็ไม่ได้เกิดขึ้นที่บริเวณแนวรับ-แนวต้าน และอาจจะทำให้เทรดเดอร์ที่ไม่เข้าใจในเรื่องของแนวรับ-แนวต้านมากพอ เข้าใจผิดคิดว่าการเกิดกราฟแท่งเทียนที่จุดนั้น คือกลับตัวของราคา และทำให้เกิดการล้างพอร์ตได้นั่นเองครับ

     

    ข้อดี-ข้อเสียของกราฟแท่งเทียน

    ข้อดี

    • เป็นเทคนิคที่ใช้วิเคราะห์จุดกลับตัวและการพักตัวของราคาได้อย่างดี
    • เป็นเทคนิคที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งอินดิเคเตอร์ตัวอื่น ๆ สามารถที่จะใช้แค่กราฟเปล่าอย่างเดียวได้เลย
    • เป็นเทคนิคที่สามารถใช้อ่านสถานการณ์ตลาดว่า ในแต่ละรูปแบบกราฟแท่งเทียน ณ ช่วงเวลานั้น ๆ เกิดอะไรขึ้นกับตลาด และมีแนวโน้มเป็นอย่างไร 

    ข้อเสีย

    • มักจะเกิดสัญญาณหลอกในหลาย ๆ ครั้ง
    • หากเทรดเดอร์ไม่เข้าใจเรื่องแนวรับ-แนวต้าน อาจจะทำให้การเทรดผิดพลาดได้

     

    สรุป 26 กราฟแท่งเทียน

    กราฟแท่งเทียน เป็นการสังเกตกิจกรรมของผู้เล่นในตลาด Forex ผ่าน “การกระทำของราคา” เป็นการกระทำต่าง ๆ ของผู้เล่นทั้งฝั่ง Buy และ Sell สิ่งเหล่านี้ที่แสดงออกมาผ่านแท่งเทียน สามารถบ่งบอกสถานะของตลาดได้ทุกอย่าง ขึ้นอยู่กับว่าเทรดเดอร์จะเข้าใจมันมากน้อยเพียงใด

    อย่างไรก็ตาม การนำกราฟแท่งเทียนมาช่วยในการวิเคราะห์ ไม่ได้มีความแม่นยำ 100% เพราะตลาด คือ ผู้ซื้อและผู้ขาย การกระทำของผู้เล่นในฝั่งใดฝั่งหนึ่ง อาจจะส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อราคาได้ และจงจำไว้ว่า “เราไม่สามารถที่จะเอาชนะตลาดได้”

     


    ⚠️ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

    หากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม

    สามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับ Forex ได้ทางเว็บไซต์ www.thaiforexreview.com

    ติดตามความเคลื่อนไหวและการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก Thaiforexreview

    ติดตามข่าวสารการลงทุนและบทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์ได้ที่ Forex Analysis

    อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ Blogs

    อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมได้ที่ Top Brokers

    forex
    beginner

    แนะนำโบรกเกอร์สำหรับคุณ

    tfn
    ข้อจำกัดด้านความปลอดภัย

    Thaiforexreview.com จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ
    ที่เกิดจากการพึ่งพาข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้ รวมถึงข่าวการตลาด การวิเคราะห์ สัญญาณการซื้อขาย และบทวิจารณ์โบรกเกอร์ Forex ข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์นี้อาจไม่เป็นปัจจุบัน และการวิเคราะห์เป็นความคิดเห็น ของ Thaiforexreview.com ไม่มีการการันตีใด ๆ

    การซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ก่อนตัดสินใจซื้อขาย Forex หรือใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ ควรพิจารณาวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เรามุ่งเน้นเพื่อเสนอข้อมูล ที่สำคัญเกี่ยวกับโบรกเกอร์ทั้งหมดที่เราตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด

    ความรู้ Forex

    Forex

    Gold

    Beginner

    Investing

    ข้อจำกัดด้านความปลอดภัย

    Thaiforexreview.com จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ
    ที่เกิดจากการพึ่งพาข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้ รวมถึงข่าวการตลาด การวิเคราะห์ สัญญาณการซื้อขาย และบทวิจารณ์โบรกเกอร์ Forex ข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์นี้อาจไม่เป็นปัจจุบัน และการวิเคราะห์เป็นความคิดเห็น ของ Thaiforexreview.com ไม่มีการการันตีใด ๆ

    การซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ก่อนตัดสินใจซื้อขาย Forex หรือใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ ควรพิจารณาวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เรามุ่งเน้นเพื่อเสนอข้อมูล ที่สำคัญเกี่ยวกับโบรกเกอร์ทั้งหมดที่เราตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด

    © Copyright Thaiforexreview 2023. All rights reserved