List of content

    5 ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำที่นักลงทุนไม่ควรพลาด! ปี 2024


    5 ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ ปี 2024

    จากสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่กำลังรุนแรงในปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดผลกระทบเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ, เศรษฐกิจมหภาค รวมทั้ง การลงทุนในสินทรัพย์ เช่น การปรับตัวของราคาน้ำมันโลกที่พุ่งสูงขึ้นส่งผลให้เกิดการเร่งตัวของอัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ยก็ขยายตัวนานขึ้น จนทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลตามมา เป็นเหตุให้นักลงทุนส่วนใหญ่หันไปให้ความสนใจกับการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยหรือทองคำแทน เพราะในช่วงนี้ราคาทองคำพุ่งขึ้นเหนือระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์อีกครั้ง

    สำหรับประเทศไทยนั้น ราคาทองคำมีการปรับทำ All Time High โดยราคาทองคำได้ปรับขึ้นตั้งแต่การแพร่ระบาดของโควิด-19 จนถึงการทำสงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทองคำได้กลายเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-Haven) ที่มีความต้องการสูงมากครับ

    วันนี้ทางทีมงาน Thaiforexreview จะพาทุกท่านมารู้จักกับ 5 ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำที่นักลงทุนไม่ควรพลาด ปี 2024 จะมีปัจจัยอะไรบ้าง?  ไปหาคำตอบกันครับ

     

    5 ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ มีอะไรบ้างที่นักลงทุนควรรู้?

     

    5 ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ ปี 2023

    แม้ทองคำจะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-Heaven) ที่เหมาะสำหรับการลงทุนในช่วงเศรษฐกิจเกิดความผันผวน แต่การลงทุนก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกัน เพราะทองคำก็เหมือนกับสินทรัพย์ทั่วไปที่มักจะผกผันไปกับปัจจัยอื่น ๆ ดังนั้น ทีมงาน Thaiforexreview จึงได้รวบรวม 5 ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำที่นักลงทุนควรรู้ เพื่อใช้ในการพิจารณาและปรับพอร์ตการลงทุนของคุณให้ดียิ่งขึ้น โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้

    1. ราคาน้ำมันส่งผลต่อราคาทองคำ

    ราคาน้ำมันถือเป็นปัจจัยที่สำคัญในการส่งผลต่อราคาทองคำ เนื่องจากราคาน้ำมันนั้น มักจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งภาวะเงินเฟ้อจะส่งผลต่อราคาทองคำนั่นเอง หากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นสูง แสดงให้เห็นว่า ภาวะเงินเฟ้อจะปรับตัวขึ้น ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ในทางกลับกัน หากราคาน้ำมันถูกลง แสดงให้เห็นว่า ภาวะเงินเฟ้อจะลดลง ส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงเช่นเดียวกันครับ

    2. ดอลลาร์สหรัฐส่งผลต่อราคาทองคำ

    โดยปกติแล้ว ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินที่ถูกนำมาใช้เป็นสื่อกลางในการซื้อขายมากที่สุด ทำให้ราคาทองคำมีการปรับขึ้นลงตามค่าเงินดอลลาร์ หากดอลลาร์สหรัฐมีการอ่อนค่าลง แสดงให้เห็นว่า ราคาทองคำจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น เพราะนักลงทุนจะหันมาลงทุนในทองคำแทน แต่ในทางกลับกัน หากดอลลาร์สหรัฐเกิดการแข็งค่า ราคาทองคำจะถูกปรับลดลง เนื่องจากนักลงทุนจะหันไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐฯ แทน

    3. อัตราดอกเบี้ยส่งผลต่อราคาทองคำ

    ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำอีกปัจจัยหนึ่ง คือ อัตราดอกเบี้ย เพราะราคาทองคำมักจะผกผันตามอัตราดอกเบี้ยนโยบายเสมอ หากอัตราดอกเบี้ยนโยบายปรับตัวสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจมีการเติบโตที่ดีขึ้น ทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า แต่ราคาทองคำจะถูกปรับลดลง แต่ในขณะเดียวกัน หากอัตราดอกเบี้ยนโยบายถูกปรับตัวลง แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย ทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงจะทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนในทองคำ จนทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นนั้นเอง

    4. ความต้องการของ Demand และ Supply ส่งผลต่อราคาทองคำ

    ความต้องการของ Demand และ Supply ส่งผลต่อราคาทองคำเป็นอย่างมาก โดยความต้องการของ Demand คือ การซื้อทองคำในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมเครื่องประดับ, อุตสาหกรรมการผลิตและการแพทย์ หรือแม้แต่อุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทองคำเป็นต้น ส่วนความต้องการด้าน Supply คือ การขายทองคำในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเหมืองแร่หรือทรัพยากรธรรมชาติ รวมทั้งการสำรองทองคำของธนาคารกลาง เพื่อสร้างความมั่นคงของประเทศอีกด้วย 

    ดังนั้นแล้ว ความต้องการ Demand และ Supply จะส่งผลต่อราคาทองคำในทิศทางเดียวกัน หากความต้องการสูง ราคาทองคำก็จะสูงขึ้น แต่หากความต้องการต่ำ ราคาทองคำก็จะปรับลดลงไปด้วย

    5. ความขัดแย้งทางด้านภูมิศาสตร์

    ปัจจัยสุดท้ายที่ส่งผลต่อราคาทองคำ คือ ความขัดแย้งทางด้านภูมิศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นความตึงเครียดทางด้านการเมือง, ความขัดแย้งระดับโลก หรือแม้แต่เหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ มักจะส่งผลให้เศรษฐกิจเกิดความผันผวน เป็นเหตุให้นักลงทุนหันมาลงทุนในทองคำมากขึ้น จึงทำให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น

     

    การลงทุนในทองคำสามารถแบ่งออกได้กี่ประเภท?

     

    5 ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ ปี 2023

    การลงทุนในทองคำสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท ยกตัวอย่างเช่น การซื้อขายทองคำแท่ง, การเทรดทองคำในตลาดโลก หรือ Gold Spot, การทำสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า หรือ Gold Future, การเทรดทองคำ, กองทุนรวมทองคำ, ดัชนี S&P 500 และหุ้นทองคำ เป็นต้น โดยในบทความนี้จะขอยกตัวอย่างการลงทุนในทองคำ 3 ประเภท ได้แก่

    1. การเทรดทองคำ

    การเทรดทองคำเป็นหนึ่งในการลงทุนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ XUAUSD นั่นเอง ซึ่งการเทรดทองคำเป็นการซื้อขายทองคำผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์จะต้องเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์จึงจะสามารถเทรดได้ โดยการเทรดทองคำสามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมงในวันจันทร์-วันศุกร์ ทำให้เหมาะกับเทรดเดอร์ที่ต้องการทำกำไรจากส่วนต่างของราคา เพราะการเทรดลักษณะนี้ เป็นการเทรดในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่ต้องอาศัยการติดตามข่าวสารที่สำคัญก่อนทำการเทรดนั่นเอง

    2. กองทุนรวมทองคำ

    กองทุนรวมทองคำ คือ กองทุนรวมที่มีนโยบายเกี่ยวกับการลงทุนในทองคำ โดยในแต่ละกองทุน ก็จะมีเงื่อนไขและนโยบายที่แตกต่างกัน แต่กองทุนส่วนใหญ่จะสร้างผลตอบแทนให้เทียบเคียงกับกองทุนทองคำในตลาดโลกให้ได้มากที่สุด ซึ่งในปัจจุบันกองทุนรวมทองคำมีมากมายหลายกองทุน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น กองทุน SPDR Gold Share ของสหรัฐอเมริกา หรือกองทุน BGOLD ของกองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์ฟันด์ เป็นต้น

    กองทุนรวมทองคำเหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ เพราะใช้เงินลงทุนต่ำและสามารถลงทุนในระยะยาวได้ อีกทั้ง ยังมีผู้จัดการกองทุนในการบริหารจัดการความเสี่ยงให้อีกด้วย

    3. หุ้นทองคำ

    หุ้นทองคำ เป็นการลงทุนร่วมกับเจ้าของกิจการในอุตสาหกรรมทองคำ ไม่ว่าจะเป็นร้านทองและบริษัทซื้อขายทองคำ เป็นต้น โดยนักลงทุนจะได้รับเงินผลตอบแทนเป็นเงินปันผลและกำไรส่วนต่างของราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้น

     


    บทความยอดนิยมที่เกี่ยวข้องกับทองคำ

    10 ประเทศที่มีทองคำสำรองมากที่สุด อัปเดตปี 2024

    BRICS คืออะไร? เจาะลึก 7 ประเทศที่ถือทองคำมากที่สุด ปี 2024

    การลงทุนทองคำ มีกี่ประเภท ให้ผลตอบแทนอย่างไร ลงทุนแบบไหนดี!?

     

    คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับทองคำ

    ทองคำมีประโยชน์อย่างไร? 

    ทองคำเป็นสื่อกลางสำหรับแลกเปลี่ยนเงินตราที่มักใช้เป็นกองทุนสำรองระหว่างประเทศ เพราะทองคำเป็นหลักค้ำประกันชั้นเยี่ยม, มีความน่าเชื่อถือ และสามารถใช้เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงในการลงทุนได้ดีอีกด้วย

    ทำไมควรลงทุนกับทองคำ? 

    ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย (Safe-Haven) จึงเหมาะกับการลงทุนในช่วงที่เศรษฐกิจถดถอย เพราะเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงและสามารถลงทุนได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ดัชนี S&P 500, การเทรดทอง หรือกองทุนรวมทองคำ เป็นต้น อีกทั้ง ยังสามารถสร้างผลตอบแทนทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอีกด้วย

     

    สรุป

    จากที่กล่าวไปข้างต้น เห็นได้ว่า ราคาทองคำขึ้นอยู่กับ 5 ปัจจัย ได้แก่ ราคาน้ำมันปรับตัว, ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า-อ่อนค่า, อัตราดอกเบี้ยนโยบาย, ความต้องการ Demand และ Supply ที่เพิ่มมากขึ้น และความขัดแย้งทางด้านภูมิศาสตร์หรือเหตุการณ์สำคัญ ดังนั้น นักลงทุนที่ต้องการลงทุนทองคำควรศึกษาข้อมูลที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับกลยุทธ์การลงทุนให้รู้เท่าทันสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่เสมอครับ

     


     

    ⚠️ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

     

    หากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม

    สามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับ Forex ได้ทางเว็บไซต์ www.thaiforexreview.com

    ติดตามความเคลื่อนไหวและการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก Thaiforexreview

    ติดตามข่าวสารการลงทุนและบทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์ได้ที่ Forex Analysis

    อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ Blogs

    อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมได้ที่ Top Brokers

    gold

    แนะนำโบรกเกอร์สำหรับคุณ

    ข้อจำกัดด้านความปลอดภัย

    Thaiforexreview.com จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ
    ที่เกิดจากการพึ่งพาข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้ รวมถึงข่าวการตลาด การวิเคราะห์ สัญญาณการซื้อขาย และบทวิจารณ์โบรกเกอร์ Forex ข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์นี้อาจไม่เป็นปัจจุบัน และการวิเคราะห์เป็นความคิดเห็น ของ Thaiforexreview.com ไม่มีการการันตีใด ๆ

    การซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ก่อนตัดสินใจซื้อขาย Forex หรือใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ ควรพิจารณาวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เรามุ่งเน้นเพื่อเสนอข้อมูล ที่สำคัญเกี่ยวกับโบรกเกอร์ทั้งหมดที่เราตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด

    © Copyright Thaiforexreview 2023. All rights reserved