List of content
Forex คืออะไร? มือใหม่เริ่มต้นเทรดยังไงดี?
Forex คืออะไร? ในปัจจุบันการลงทุนนั้นมีความหลากหลาย ทั้งการลงทุนระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งเครื่องมือการลงทุนนั้นก็มีความหลากหลายเช่นกัน ทุกท่านรู้จัก Forex กันใช่ไหมครับ วันนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ Forex ว่าคืออะไร มือใหม่สามารถเริ่มต้นเทรดได้ยังไง ข้อดีและข้อเสียของ Forex รวมถึงการวางแผนเพื่อที่จะทำกำไรในตลาด Forex ด้วยครับ โดยบทความนี้จะช่วยให้ทุกท่านรู้จัก Forex มากขึ้นเองครับ
Forex ย่อมาจาก Foreign Exchange Market หรือ FX คือ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งเป็นตลาดที่มีสภาพคล่องและมูลค่าสูงที่สุดในโลก โดยตลาด Forex นั้นจะเปิด 24 ชั่วโมง โดยจะหยุดวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะการแลกเปลี่ยนเงินตรานั้นอยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิดและไม่จำเป็นต้องเป็นเทรดเดอร์
ตัวอย่างเช่น คุณต้องการไปเที่ยวต่างประเทศโดยแลกเงิน 35,000 บาท ไปเป็นเงินดอลลาร์ (USD) ซึ่งตอนนั้นค่าเงินอยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 35 บาท คุณจะได้เงิน 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ ทันทีที่แลกเปลี่ยน ปรากฏว่า 3 วันต่อมา ค่าเงิน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 36 บาท ทันทีที่คุณแลกคืนจะได้เงินจำนวน 36,000 บาท เท่ากับว่าคุณได้กำไร 1,000 บาท นั่นถือว่าทุกท่านมีความข้องเกี่ยวกับตลาด Forex แล้ว
จะเห็นได้ว่า Forex ก็คือการแลกเปลี่ยนสกุลเงินที่เกิดขึ้นในที่ต่าง ๆ แล้วการเทรด Forex ล่ะคืออะไร เป็นเพียงการเก็งกำไรจากค่าเงินใช่หรือไม่? ทีมงาน ThaiForexReview จะพาไปเจาะลึกเกี่ยวกับการเทรด Forex กันครับ
การเทรด Forex นั้นเป็นการเก็งกำไรจากความเคลื่อนไหวของคู่เงินที่อยู่ในรูปแบบของ CFD ซึ่งทำให้นักลงทุนสามารถเทรดคู่เงินได้ทั้งในช่วงตลาดขาขึ้นและขาลง อีกทั้ง ยังสามารถใช้ Leverage เพื่อเพิ่มอำนาจในการซื้อขายได้ ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้เงินทุนเป็นจำนวนมากเหมือนกับการแลกเปลี่ยนเงินตราจริงนั่นเองครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
เนื่องจากตลาด Forex มีสภาพคล่องและมูลค่าสูงที่สุดแล้ว ซึ่งในตลาด Forex นั้นไม่ได้มีแค่เทรดเดอร์หรือบุคคลธรรมดาทั่วไป แต่ยังมีอีกหลายผู้เล่นที่เกี่ยวข้องกับตลาด Forex โดยจะพาทุกท่านมารู้จักผู้เล่นในตลาด Forex มีดังนี้ครับ
- ธนาคารกลางรัฐบาล
- ธนาคารพาณิชย์
- กองทุนระหว่างประเทศ
- บริษัทระหว่างประเทศ
- ธุรกิจนำเข้า-ส่งออก
- เทรดเดอร์และบุคคลธรรมดาทั่วไป
นอกจากผู้เล่นในตลาดที่หลากหลายแล้ว ตลาด Forex ยังมีคู่เงินที่หลากหลายคู่ ที่ทุกท่านสามารถเทรดได้ ทางทีมงาน Thaiforexreview จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักคู่เงินหลักในตลาด Forex ที่มีสภาพคล่องในการเทรดกันครับ
คู่เงินในตลาด Forex นั้นมีหลากหลายคู่เงิน โดยจะแบ่งเป็น 3 ประเภท หลัก ๆ ตามความนิยมและสภาพคล่องมีดังนี้ครับ
คู่เงินหลัก (Major Currency Pairs)
คู่เงินหลัก คือ คู่เงินที่มีสกุลเงินดอลลาร์ (USD) อยู่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคู่เงินที่มีปริมาณการซื้อขายที่สูงที่สุดในโลก บ่งบอกถึงความนิยมและสภาพคล่องในคู่เงินหลัก โดยตัวอย่างคู่เงินหลักมีดังนี้
- EUR/USD
- GBP/USD
- USD/JPY
- AUD/USD
- USD/CHF
- NZD/USD
- USD/CAD
คู่เงินรอง (Minor Currency Pairs)
คู่เงินรอง คือ คู่เงินที่ไม่มีสกุลเงินดอลลาร์ (USD) หรือจะเรียกอีกชื่อว่า Cross Currency Pairs ซึ่งคู่เงินรองนั้นจะมีสภาพคล่องน้อยกว่าคู่เงินหลัก โดยตัวอย่างคู่เงินรองมีดังนี้
- EUR/JPY
- GBP/JPY
- CHF/JPY
- AUD/NZD
คู่เงินทางเลือก (Exotic Currency Pairs)
คู่เงินทางเลือก คือ คู่เงินที่ประกอบไปด้วยสกุลเงินดอลลาร์ (USD) กับ สกุลเงินประเทศอื่นจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่หรือประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดเล็ก โดยในคู่เงินทางเลือกนั้นจะมีสภาพคล่องค่อนข้างต่ำที่สุดในบรรดากลุ่มคู่เงินทั้งหมด โดยตัวอย่างคู่เงินทางเลือกมีดังนี้
- USD/TRY
- USD/ZAR
- USD/MXN
- USD/SGD
- USD/HKD
เทรด Forex ช่วงเวลาไหนดี นอกจากเทรดเดอร์ทุกท่านจะทราบแล้วว่าตลาด Forex นั้นเปิด 24 ชั่วโมง ปิดวันเสาร์-อาทิตย์ แต่ไม่ใช่ทุกช่วงเวลาจะเหมาะกับการเทรดครับ เพราะมันอาจจะทำให้ปริมาณการเทรดและความเคลื่อนไหวแตกต่างกัน ดังนั้น เทรดเดอร์ก็ควรให้ความสำคัญกับช่วงเวลาในการเทรดเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ถ้าเทรดเดอร์เทรดในช่วงที่ตลาดไม่มี Volume ก็จะส่งผลให้เทรดเดอร์อาจทำกำไรได้น้อยลง โดยช่วงเวลา Forex มีดังนี้
ภูมิภาค |
ช่วงเวลาเทรด Forex ตามเวลา GMT |
อเมริกา (USD) |
19.00 - 03.00 น. |
ลอนดอน (GBP) |
15.00 - 23.00 น. |
ออสเตรเลีย (AUD) |
05.00 - 13.00 น. |
โตเกียว ญี่ปุ่น (JPY) |
06.00 - 14.00 น. |
ฝรั่งเศส (CHF) |
13.00 - 21.00 น. |
ยุโรป (EUR) |
14.00 - 23.00 น. |
แคนาดา (CAD) |
19.00 - 03.00 น. |
*หมายเหตุ เวลาข้างต้นเป็นเพียงเวลาทำการของแต่ละตลาดในช่วงปกติเท่านั้น หากเข้าสู่ฤดูหนาว เวลาทำการของบางประเทศอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับภูมิประเทศครับ
หากเทรดเดอร์มือใหม่ต้องการเทรด Forex ควรเริ่มจากการเปิดบัญชีกับโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ ซึ่งในปัจจุบันประเทศไทยมีโบรกเกอร์จำนวนมากที่ให้บริการ โดยตัวอย่างของโบรกเกอร์ที่ได้รับความนิยมในไทยเช่น XM, IUX และ Exness เป็นต้น
มือใหม่เปิดบัญชี Forex ต้องดูอะไรบ้าง?
สำหรับการเลือกเปิดบัญชี Forex นั้น เทรดเดอร์จำเป็นต้องดูหลาย ๆ อย่าง เนื่องจากมีโบรกเกอร์หลากหลายแห่ง ทั้งบริการดีและมีข่าวที่ไม่ดี โดยมือใหม่ทุกท่านสามารถดูเบื้องต้นดังนี้ครับ
- ความน่าเชื่อถือและการควบคุมดูแลของโบรกเกอร์
- รีวิวการใช้งานจริง ทั้งจากเว็บไซต์รีวิวโบรกเกอร์ทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนกลุ่ม Community ต่าง ๆ
- ประเภทของบัญชี เนื่องจากมีหลากหลายประเภท เช่น บัญชี Standard หรือบัญชี Pro โดยแต่ละบัญชีก็มีรายละเอียดและอัตราค่าบริการแตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อการใช้งาน
- ค่าบริการของโบรกเกอร์ เช่น ค่า Spread ค่า Swap และค่า Commission
- ขนาดของ Leverage ที่โบรกเกอร์กำหนดให้ ถ้าเทรดเดอร์มือใหม่ไม่ระวัง การใช้ Leverage ที่มากจนเกินไปก็อาจทำให้สูญเสียเงินทั้งหมดได้
- แพลตฟอร์มการซื้อขาย เช่น แพลตฟอร์มของโบรกเกอร์เอง MetaTrader4 และ MetaTrader5 ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มก็มีเครื่องมือ รวมถึงฟีเจอร์ที่แตกต่างกัน
- การฝากและการถอนเงินของโบรกเกอร์ รวมถึงความสะดวกรวดเร็วในการฝากและถอนเงิน
- การบริการลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการโทรศัพท์ อีเมล หรือ Live Chat
หากเทรดเดอร์มือใหม่ยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปิดบัญชี Forex สามารถอ่านต่อได้ที่นี่ |
Tip! เนื่องจากมือใหม่ที่เข้ามาศึกษาในตลาด Forex อาจจะยังรับความเสี่ยงจากการเทรดได้ไม่มาก แต่ละโบรกเกอร์มีบริการให้เปิดบัญชีทดลอง (Demo) ด้วยนะครับ เทรดเดอร์มือใหม่ควรศึกษาข้อมูลและทำการประเมินความเสี่ยง วางแผนการเทรด การใช้ Leverage รวมถึง Money Management ในการเทรดด้วยนะครับ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเทรดและการทำกำไรอย่างยั่งยืนครับ
เทรด Forex สามารถทำกำไรได้ทั้ง 2 ฝั่ง นั่นคือ ขาขึ้นและขาลง โดยการเปิด Position การ Buy และ Sell นั้น ถ้าเทรดเดอร์เข้า Position ถูกทาง จะสามารถทำ กำไรได้ครับ แต่ถ้าผิดทางอาจส่งผลให้ขาดทุนได้ โดยการเทรดจะมีการส่งคำสั่งซื้อขายอยู่ 2 คำสั่ง ดังนี้
1. Long หรือ Buy
Long หรือ Buy คือ การซื้อหลักทรัพย์โดยมีความคาดหวังว่าราคาจะเพิ่มขึ้นในอนาคต การทำกำไรจากการเทรดแบบ Long คือการขายหลักทรัพย์ในราคาที่สูงกว่าราคาที่ซื้อมา ซึ่งในการเทรด Forex นั้นการเปิด Long หรือ Buy เป็นการเปิด Position เมื่อเทรดเดอร์คาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนตัวในทิศทางขาขึ้น ซึ่งถ้าคู่เงินที่เทรดเดอร์ทำการเข้าเทรดด้วย Position Buy แล้วราคาของคู่เงินเพิ่มขึ้น ก็จะส่งผลให้เทรดเดอร์ได้กำไร แต่ถ้าผิดทิศทางก็จะทำให้เทรดเดอร์ขาดทุนได้ครับ
2. Short หรือ Sell
Short หรือ Sell คือ การขายหลักทรัพย์ที่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของในปัจจุบัน โดยมีความคาดหวังว่าราคาจะลดลงในอนาคต การทำกำไรจากการเทรดแบบ Short คือการซื้อหลักทรัพย์นั้นกลับคืนในราคาที่ต่ำกว่าราคาที่ขายไป ซึ่งในการเทรด Forex นั้นการเปิด Short หรือ Sell เป็นการเปิด Position เมื่อเทรดเดอร์คาดการณ์ว่าราคาจะเคลื่อนตัวในทิศทางขาลง ซึ่งถ้าคู่เงินที่เทรดเดอร์ทำการเข้าเทรดด้วย Position Sell แล้วราคาของคู่เงินลดลง ก็จะส่งผลให้เทรดเดอร์ได้กำไร แต่ถ้าผิดทิศทางก็จะทำให้เทรดเดอร์ขาดทุนได้
โดยส่วนมากโปรแกรมที่ใช้เทรด Forex มักใช้กันอยู่ 2 เครื่องมือคือ MT4 และ MT5 ซึ่งเป็นโปรแกรมเทรดสากล โดยสามารถคีย์คำสั่งได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โดยคำสั่งนี้จะถูกบันทึกผ่านทางคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนของเหล่าเทรดเดอร์ หากคุณกังวลในการเทรดก็จะมี EA (Expert Advisor) เข้ามาคอยช่วยในการเทรดของคุณ โดยที่คุณไม่ต้องมานั่งมองหน้าจอตลอดทั้งวันครับ
เทรดเดอร์มีหลายสาย ยิ่งในตลาด Forex นั้นมีการวิเคราะห์และเทคนิคที่หลากหลาย คุณสามารถเป็นเทรดเดอร์สายไหนก็ได้ ประเภทของเทรดเดอร์จะขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ โดยแบ่งเป็น 3 ประเภทดังนี้
1. สายเทรด Forex แบบดูกราฟ วิเคราะห์ราคาจากรูปแบบของกราฟ (Technical Analysis)
สายเทรด Forex แบบวิเคราะห์กราฟนั้นจะใช้ข้อมูลที่ผ่านมา ปริมาณการซื้อขาย รวมถึงการใช้ Indicator มาช่วยตัดสินใจในการเทรด เพื่อให้การเทรดนั้นมีประสิทธิภาพในการทำกำไรได้ดีขึ้น
2. สายเทรด Forex แบบวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis)
สายเทรด Forex แบบวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานนั้นจะใช้ข้อมูล เศรษฐกิจ การเงิน และข่าวสาร เพื่อประเมินมูลค่าของสกุลเงิน อีกทั้งยังเป็นการประเมินแนวโน้มระยะยาวของสกุลเงินด้วย
3. สายเทรด Forex แบบเล่นตามข่าว (Sentiment Analysis)
สายเทรด Forex แบบเล่นตามข่าวจะโฟกัสกับการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจบน Forex Factory มาก เพราะการประกาศตัวเลขที่ออกมานั้นจะส่งผลให้ราคาของคู่เงินเกิดการเปลี่ยนแปลง และเทรดเดอร์สามารถทำกำไรในช่วงนั้นได้ครับ