List of content
Money Management คืออะไร? และมีความสำคัญอย่างไร?
หากกล่าวถึง Money Management แล้วนั้น คงเป็นเรื่องที่นักลงทุนควรศึกษาไว้ก่อนเริ่มการเทรด เพราะเรื่องนี้จะช่วยให้นักลงทุนทั้งหลายช่วยให้นักลงทุนสามารถลดโอกาสขาดทุนและรักษาเงินทุนเพื่อนำไปต่อยอดในการสร้างกำไรต่อไป อีกทั้ง ยังอาจนำไปสู่อิสรภาพทางการเงินได้ในวันนี้จะพาทุกท่านไปรู้จักกับวิธีการทำ Money Management ที่เหมาะสม จะเป็นอย่างไรนั้น สามารถติดตามได้ที่บทความนี้ครับ
ความหมายของ Money Management
Money Management หรือ MM คือ การบริหารจัดการเงินทุนอย่างเป็นระบบ โดยแนวคิดเรื่อง Money Management เพิ่งมีบทบาทสำคัญในด้านการลงทุนได้ไม่นาน เป็นเหตุมาจากนักลงทุนเห็นว่าการลงทุนนั้นหากไม่มีการจัดการเงินทุนจะทำให้เงินทุนหายไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งยังอาจทำให้พอร์ตแตกได้ ซึ่ง Money Management จะเข้ามามีส่วนช่วยให้เงินทุนของนักลงทุนสามารถเป็นไปตามทิศทางที่วางไว้ได้
วิธีการทำ Money Management เป็นอย่างไร?
วิธีการทำ Money Management นั้นคือการวางแนวทางในการบริหารเงินทุน โดยการกระจายความเสี่ยงและการตั้งเป้าหมายในส่วนของกำไร - ขาดทุน ซึ่งผมจะขออธิบาย 6 คำศัพท์ที่สามารถพบเห็นในเรื่อง Money Management เพื่อให้คุณสามารถเข้าใจวิธีการได้มากขึ้นครับ
1) การวาง Risk & Reward
คือ การวางความเสี่ยงและประเมินผลตอบแทนของการเทรดในแต่ละครั้ง ซึ่งจะเป็นการเปรียบเทียบกันระหว่างจำนวนของกำไรกับการขาดทุน โดยอัตราส่วนที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 1:3 เพื่อใช้ป้องกันความเสียหาย (Risk) ที่จะเกิดขึ้นกับพอร์ตการลงทุนให้เสียหายน้อยที่สุด รวมทั้งยังช่วยหาโอกาสในการสร้างผลตอบแทน (Reward) ให้แก่นักลงทุน
2) Position Sizing
คือ เครื่องมือที่นักเทรดนำมาใช้คำนวณความเสี่ยง โดยกำหนดว่าจะขาดทุนได้ไม่เกินกี่เปอร์เซ็นต์ในการเทรดแต่ละครั้ง ซึ่งการเทรดในระยะยาวมักจะสร้างกำไรได้มากกว่าขาดทุน Position Sizing จึงเป็นเหมือนเครื่องมือที่ช่วยให้นักลงทุนวิเคราะห์ตนเองได้ในทุก ๆ การเทรด
3) การกำหนดจุด Stop Loss และ Take Profit
คือ การวางจุดตัดกำไร (TP) และจุดตัดขาดทุน (SL) บนกราฟ ถือมีความสิ่งสำคัญของการเทรด เพราะการกำหนดจุดเหล่านี้จะช่วยป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในกรณีต่าง ๆ ได้ ซึ่งการกำหนดจุดที่เหมาะสมอาจคำนวณจากระดับเงินทุนประกอบกับการใช้เครื่องมือในการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของราคาร่วมด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณตั้งจุด SL/TP แล้ว สิ่งสำคัญที่ควรรู้ คือ ห้ามเลื่อนจุดเป็นอันขาด เพราะอาจทำให้คุณพลาดโอกาสในการทำกำไรหรือรอดจากการขาดทุนได้ครับ ซึ่งมีความหมายว่าการวางจุดตัดเพื่อหยุดราคาสินทรัพย์ในพอร์ตไม่ให้ลดลงไปมากกว่านี้ โดยนักลงทุนจะได้กำไรหรือขาดทุนก็จะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจขายสินทรัพย์ออกไปเมื่อใด
วิธีการกำหนดจุด Stop Loss นั้นสามารถทำได้โดยการนำ % ที่รับได้หากขาดทุน มาคูณกับราคาต้นทุนของหลักทรัพย์นั้น ๆ ซึ่งนักลงทุนที่เริ่มมีประสบการณ์แล้วนั้นสามารถวางจุด Stop Loss ได้จากกราฟ และคำนวณจากความผกผันของราคาสินทรัพย์
4) การ Cut Loss
คือ การขายสินทรัพย์ที่ขาดทุนออกไป โดยเป็นการขาดทุนที่น้อยที่สุด ช่น หากคุณกำลังถือสินทรัพย์เสี่ยงที่อาจโดน Margin Call หรือขาดทุนเกินกว่าที่คุณจะรับได้ คุณอาจพิจารณาขายสินทรัพย์ที่ขาดทุนออกไปไม่ให้ขาดทุนหนักกว่าเดิมเพื่อป้องกันเงินทุนที่เหลืออยู่ ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลมก็ได้ครับ
5) กฎ 2 %
คือ การยอมรับความเสี่ยงที่นักลงทุนรับได้ โดยเปรียบเทียบความเสี่ยงที่รับได้กับจำนวนเงินทุนในอัตราที่เหมาะสม โดยนักลงทุนส่วนใหญ่มักตั้งไว้ไม่เกิน 2%
6) จำนวน Lot
คือ หน่วยของขนาดสัญญาที่ใช้แสดงปริมาณซื้อขายในตราสารประเภท CFD เช่นสกุลเงิน, ดัชนีหุ้นต่างประเทศ หรือผลิตภัณฑ์ CFD อื่น ๆ เป็นต้น
ทําไมต้องมี Money Management?
Money Management จะช่วยให้คุณสามารถทราบที่มาของเงินทั้งหมดทั้งในส่วนของกำไรและขาดทุนได้ ซึ่งคุณสามารถนำไปใช้เพื่อกำหนดแนวทางในการวางแผนทางการเงินต่อไปเพื่อไม่ให้เกิดภาวะขาดทุน, เงินไม่พอใช้, หรือก่อเกิดหนี้ครับ
เริ่มต้นวางแผน Money Management อย่างไรดี?
สำหรับนักเทรดที่สนใจบริหารจัดการทุน ควรเริ่มวางแผน Money Management เพราะถือว่ามีส่วนช่วยในการจัดการทุนให้มีระบบมากขึ้น อย่างไรก็ตามหากนักลงทุนจะไม่วางแผน Money Management ก็ย่อมได้ เนื่องจากเป้าหมาย, เงินทุน, การยอมรับความเสี่ยง, เทคนิค และกลยุทธ์ในการเทรดของนักเทรดแต่ละคนแตกต่างกัน ซึ่งการวางแผน Money Management เป็นหนึ่งในทางเลือกให้แก่นักลงทุนเท่านั้น
ข้อดีของ Money Management มีอะไรบ้าง?
1) ในตลาด Forex มีความเสี่ยงสูงหากสามารถจัดการความเสี่ยงได้ ก็จะทำให้นักลงทุนลดโอกาสในการขาดทุนจากปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ได้
2) ตามปกติของตลาด Forex ไม่มีนักลงทุนคนไหนที่ไม่เคยขาดทุน หากไม่มี Money Management การขาดทุนครั้งนั้นจะสามารถล้างพอร์ตลงทุนของคุณได้
3) Money Management สามารถช่วยจัดระบบการลงทุนให้ดียิ่งขึ้น
ข้อเสียของ Money Management
1) หากคุณไม่มีการวางแผน Money Management ให้เป็นระบบมากพอ อาจจะทำให้คุณเสี่ยงพอร์ตแตกได้เช่นกัน
สรุป
จากที่กล่าวมาเห็นได้ว่า Money Management เป็นเรื่องที่ควรให้ความสําคัญเป็นอันดับต้น ๆ เมื่อคุณจะเริ่มต้นการเทรด เนื่องจาก Money Managerment จะช่วยวางแผนให้คุณสามารถจัดการการเงินได้อย่างเป็นระบบมากขึ้น สามารถเปรียบเทียบกำไรขาดทุนกับต้นทุนของคุณได้ ถือเป็นการบริหารพอร์ตที่มีเทคนิคช่วยให้คุณมีโอกาสทำกำไรได้เพิ่มมากขึ้น เพราะแม้ว่าคุณได้กำไรมา 11 เท่า แต่ไม่มี Money Management กำไรที่คุณได้มาอาจมีโอกาสเสียไป
ดังนั้น Money Management จึงถือเป็นการวางแผนการจัดพอร์ตที่ดีให้แก่คุณ ๆ ได้ครับ
______________________________________________
หากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม สามารถติดตาม ThaiForexReview
ติดตามการเคลื่อนไหวของตลาดการลงทุนได้ที่ : News
อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ : Blogs
รีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยม : Top Brokers