List of content
Risk Management พื้นฐานการบริหารความเสี่ยงที่เทรดเดอร์ Forex ทุกคนควรมี !
ในการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใดหรือในตลาดใดก็ตามแต่ ล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยงทั้งนั้น โดยเฉพาะกับการลงทุนในตลาด CFD ที่มีเรื่องของ Leverage เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้ความเสี่ยงที่มีอยู่แล้วนั้นทวีคูณขึ้นไปเป็นเท่าตัว จึงจำเป็นอย่างมากที่เทรดเดอร์มือใหม่และมืออาชีพจะต้องมีพื้นฐานในการ “บริหารความเสี่ยง” ในการเทรด Forex เพื่อที่จะสามารถอยู่รอดในตลาดนี้ได้อย่างยั่งยืนนั่นเอง แล้วการบริหารความเสี่ยงนั้นเป็นอย่างไร วันนี้ Thaiforexreivew จะมาเล่าให้ฟังครับ
การบริหารความเสี่ยง หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า "Risk Management" เป็นการจัดสรรหรือจัดการความเสี่ยงในการลงทุนของเทรดเดอร์ เพื่อที่จะสามารถป้องกันการขาดทุนจากจำนวนมากให้เหลือเพียงจำนวนน้อย ๆ ซึ่งวิธีการอาจจะเป็นการวิเคราะห์ตลาดภาพรวม การคำนวณการออก Lot หรือแม้กระทั่งการตั้งจุดขาดทุนที่ยอมรับได้
ตลาดหรือสินทรัพย์ใดที่มีความเสี่ยงสูงจะหมายถึงกำไรที่สูงขึ้น และจำนวนขาดทุนที่มากขึ้น แต่กลับกันหากว่าตลาดหรือสินทรัพย์ใดที่มีความเสี่ยงต่ำก็จะหมายถึงกำไรที่ลดลง แต่ก็แน่นอนว่าการขาดทุนก็ลดลงเช่นเดียวกัน การบริหารความเสี่ยงจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากในการเทรด Forex เพื่อที่จะสามารถเทรดในตลาดนี้ได้อย่างยั่งยืน
-
ความเสี่ยงทางตลาด (Market Risk) ความเสี่ยงที่ราคาของสกุลเงินจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ตรงกันข้ามกับการคาดการณ์ ซึ่งอาจจะเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น นโยบายการเงิน ข้อมูลเศรษฐกิจ เหตุการณ์ทางการเมือง หรือภัยธรรมชาติต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศนั้น ๆ
ตัวอย่างเช่น เทรดเดอร์คาดการณ์ว่า EUR/USD จะแข็งค่า เนื่องจากว่าตัวเลขเศรษฐกิจของยุโรปออกมาดี แต่ USD กลับแข็งค่าขึ้น ทำให้ EUR/USD อ่อนค่าลง
-
ความเสี่ยงจาก Leverage (Leverage Risk) ความเสี่ยงที่การขาดทุนจะขยายใหญ่ขึ้นเมื่อใช้ Leverage ที่สูงขึ้น เนื่องจากว่า Leverage ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเปิดสถานะขนาดใหญ่โดยใช้เงินทุนน้อยลง แต่หากราคาเคลื่อนไหวไปในทางที่ตรงกันข้าม เทรดเดอร์จะขาดทุนมากกว่าที่ลงทุนเช่นเดียวกัน
ตัวอย่างเช่น เทรดเดอร์ใช้ Leverage 1:100 ลงทุน 1,000 USD ใน EUR/USD ด้วยขนาด 1 lot ถ้าหากว่า EUR/USD อ่อนค่าลง 1% เทรดเดอร์จะเสีย 1,000 USD ทั้งหมด
-
ความเสี่ยงทางการเมือง (Political Risk) ความเสี่ยงที่เหตุการณ์ทางการเมืองจะส่งผลต่ออัตราแลกเปลี่ยน เกิดจากเหตุการณ์ต่าง ๆ เช่น การเลือกตั้ง การปฏิวัติ สงคราม เป็นต้น
ตัวอย่างเช่น เกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน USD อาจจะอ่อนค่าลง
-
ความเสี่ยงทางเทคโนโลยี (Technological Risk) ความเสี่ยงที่เกิดจากปัญหาทางเทคโนโลยี เช่น แพลตฟอร์มการซื้อขายล่ม ส่งผลต่อการเข้าถึงตลาดและการดำเนินการซื้อขาย
ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์มการซื้อขายล่ม เทรดเดอร์ไม่สามารถปิดสถานะที่ขาดทุนได้
-
ความเสี่ยงจากการฉ้อโกง (Fraud Risk) ความเสี่ยงที่เกิดจากโบรกเกอร์หรือบุคคลอื่นฉ้อโกงเงินทุนเลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตและตรวจสอบได้
ตัวอย่างเช่น โบรกเกอร์หลอกลวงเทรดเดอร์ โดยนำเงินทุนไปหมุนใช้ส่วนตัว
-
ความเสี่ยงจากระบบ (System Risk) ความเสี่ยงที่เกิดจากความผิดพลาดของระบบการซื้อขายนั้นมาได้มาจากทั้งความตั้งใจและความไม่ตั้งใจของโบรกเกอร์ เช่น Requote หรือ Slippage ที่จะทำให้การซื้อขายของเทรดเดอร์เกิดการคลาดเคลื่อน และสร้างความเสียหายให้กับเทรดเดอร์ได้อย่างมหาศาล
การบริหารความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับเทรดเดอร์ Forex เทรดเดอร์ควรศึกษาประเภทของความเสี่ยงและหาวิธีบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
👉 สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Requote, Slippage และกลโกงอื่น ๆ ที่โบรกเกอร์มักใช้ได้ที่นี่ : 5 กลโกงที่โบรกเกอร์ Forex มักใช้
ในการเทรด Forex หรือการเทรดในรูปแบบของ CFD นั้น การบริหารความเสี่ยงถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก อย่างที่ได้กล่าวไปก่อนหน้านี้แล้วว่าทุกการลงทุนจะมีความเสี่ยงอยู่ไม่มากก็น้อย แต่ในการเทรดรูปแบบ CFD นั้น ถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงมากที่สุดในตลาดการเงิน เนื่องจากว่าการเทรดแบบนี้มีการใช้ Leverage ซึ่งเป็นเครื่องมือที่เพิ่มอำนาจการซื้อขายให้กับเทรดเดอร์แบบทวีคูณหลายเท่าตัว โดยการมีอยู่ของ Leverage นี้ ทำให้เทรดเดอร์สามารถที่จะทำกำไรได้จากจำนวนเงินทุนอันน้อยนิด แต่ในขณะเดียวกัน Leverage ก็สามารถทำให้เทรดเดอร์ขาดทุนจำนวนมหาศาลได้ในพริบตาด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้น การบริหารความเสี่ยงจึงเป็นเหมือนภูมิคุ้มกันไม่ให้เทรดเดอร์ขาดทุนจนหมดเนื้อหมดตัว และสามารถที่จะอยู่รอดในตลาด Forex ได้อย่างยั่งยืนนั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้องกับการบริหารความเสี่ยง (Risk Management)
- เริ่มต้นเทรด Forex ใช้เงินเท่าไหร่?
- วิธีเลือกโบรกเกอร์ตามกลยุทธ์การเทรด เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างกำไรให้ได้มากที่สุด
- 5 สิ่งที่ควรทำ หากต้องการเทรด Forex ให้ประสบความสำเร็จ!
- 5 ทักษะที่จะทำให้เทรดเดอร์ประสบความสำเร็จในการเทรด Forex!
การบริหารความเสี่ยง Forex เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ทุกคน เพื่อลดโอกาสในการขาดทุนและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร โดยมีวิธีการบริหารความเสี่ยง 10 ข้อ ดังนี้
1. การจัดการเงินทุน (Risk Capital)
-
กำหนดจำนวนเงินที่คุณสามารถรับความเสี่ยงได้ (Risk Capital)
-
แบ่งเงินทุนออกเป็นบัญชีย่อย
-
ลงทุนในแต่ละบัญชีไม่เกิน 2% ของเงินทุนทั้งหมด
2. การจัดการความเสี่ยงต่อการซื้อขาย (Risk Per Trade)
-
กำหนดขนาดการซื้อขาย (Position Size) ที่เหมาะสม
-
ตั้งค่า Stop Loss เพื่อจำกัดการขาดทุนในขนาดที่ยอมรับได้
3. อัตราส่วนความเสี่ยงต่อผลตอบแทน (Risk to Reward Ratio)
-
ตั้งเป้าหมายผลตอบแทนที่สมเหตุสมผล
-
ตั้งค่า Take Profit ที่มีความเป็นไปได้
-
อัตราส่วน Risk to Reward ควรอยู่ที่ 1:2 หรือมากกว่านั้น
4. การกระจายความเสี่ยง (Diversification)
-
ลงทุนในคู่สกุลเงินหลายคู่
-
ลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่น
ทั้งนี้ การที่เราจะกระจายความเสี่ยงได้นั้น เราควรที่จะมีความรู้ในสินทรัพย์นั้น ๆ ในระดับหนึ่งด้วย เพื่อที่จะไม่เป็นการลงทุนโดยไม่มีความรู้และขาดทุนไปโดยใช่เหตุนั่นเอง
5. การใช้เครื่องมือบริหารความเสี่ยง
-
ใช้ Stop Loss และ Take Profit
-
ใช้ Trailing Stop Loss
-
ใช้ Limit Order
6. การศึกษาและฝึกฝน
-
ศึกษาเกี่ยวกับตลาด Forex และกลยุทธ์การซื้อขาย
-
ฝึกฝนการซื้อขายบนบัญชี Demo
7. ควบคุมอารมณ์
-
ไม่ตัดสินใจโดยอารมณ์
-
มีวินัยในการซื้อขาย
-
จัดการความเครียด
8. เลือกโบรกเกอร์ที่เชื่อถือได้
-
เลือกโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาต
-
เลือกโบรกเกอร์ที่มีสภาพคล่องสูง
-
เลือกโบรกเกอร์ที่มีค่าธรรมเนียมที่เหมาะสม
9. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
-
ปรึกษาเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์
-
เรียนคอร์สการเทรด
10. บันทึกการซื้อขาย
-
จดบันทึกการซื้อขายทุกครั้ง
-
วิเคราะห์ผลการซื้อขาย
-
พัฒนาการซื้อขาย
การบริหารความเสี่ยงไม่ได้มีเพียงแค่ 10 ข้อนี้เท่านั้น ยังมีอีกหลายวิธีที่จะช่วยให้เทรดเดอร์ควบคุมความเสี่ยงได้ดียิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามการบริหารความเสี่ยง Forex เป็นสิ่งที่เทรดเดอร์ทุกคนต้องเรียนรู้และฝึกฝนอยู่เสมอ ไม่มีวิธีการใดที่รับประกันความสำเร็จ 100% แต่การบริหารความเสี่ยงที่ดีจะช่วยลดโอกาสในการขาดทุนและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร
Q : ความเสี่ยงในการเทรด Forex มีอะไรบ้าง ?
A : การเทรด Forex มีความเสี่ยงอยู่หลายอย่าง ได้แก่
-
ความเสี่ยงทางตลาด
-
ความเสี่ยงจาก Leverage
-
ความเสี่ยงทางการเมือง
-
ความเสี่ยงทางเทคโนโลยี
-
ความเสี่ยงจากการฉ้อโกง
-
ความเสี่ยงจากระบบ
Q : วิธีการเทรด Forex ตามข่าวทำอย่างไร ?
A : การเทรด Forex ตามข่าวเป็นวิธีการเทรดในช่วงเวลาที่ข่าวเศรษฐกิจของแต่ละประเทศนั้นประกาศออกมา โดยเทรดเดอร์สามารถที่จะดักซื้อเมื่อก่อนข่าวออก แต่ก่อนหน้านั้นเทรดเดอร์จำเป็นที่จะต้องวิเคราะห์ตลาดภาพรวมมาแล้วว่าข่าวจะออกมาในรูปแบบไหน หรือเทรดเดอร์อาจจะเป็น Follow ตามสถานการณ์ เป็นการเข้าซื้อเมื่อข่าวประกาศออกมาแล้วนั่นเอง
การบริหารความเสี่ยงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมากในการลงทุน โดยเฉพาะกับการลงทุนใน Forex ที่มีความเสี่ยงสูง ยิ่งจำเป็นต้องมีการบริหารความเสี่ยงที่ดีมาก ๆ เพื่อที่จะสามารถเอาตัวรอดในตลาดได้ โดยวิธีการในการบริหารความเสี่ยงนั้นมีอยู่หลายวิธี ซึ่งเทรดเดอร์สามารถที่จะกำหนดวิธีการของตัวเองขึ้นมาเพื่อให้เหมาะกับความเสี่ยงที่เทรดเดอร์กำลังรับมืออยู่ อย่างไรก็ตาม ไม่มีวิธีการใดที่รับประกันความสำเร็จ 100% แต่การบริหารความเสี่ยงที่ดีจะช่วยให้เทรดเดอร์อยู่รอดในตลาด Forex ได้อย่างยั่งยืนนั่นเองครับ
หากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม
สามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับ Forex ได้ทางเว็บไซต์ www.thaiforexreview.com
ติดตามความเคลื่อนไหวและการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก Thaiforexreview
ติดตามข่าวสารการลงทุนและบทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์ได้ที่ Forex Analysis
อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ Blogs
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมได้ที่ Top Brokers