CPI คืออะไร ? เกี่ยวข้องอย่างไรกับตลาด Forex

CPI คืออะไร ?

CPI ย่อมาจาก Consumer Price Index หรือ “ดัชนีราคาผู้บริโภค” เป็นดัชนีที่เอาไว้วัดค่าการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการในแต่ละช่วงเวลา และเป็นเครื่องมือที่ใช้วัดอำนาจการซื้อของผู้บริโภค หรือเรียกว่าอีกอย่าง “อัตราเงินเฟ้อ” นั่นเอง ซึ่งค่า CPI นี้จะถูกนำไปใช้เพื่อเปรียบเทียบและปรับฐานค่าแรงให้สอดคล้องกับราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นหรือลดลงนั่นเอง

CPI ใช้วัดอะไรบ้าง ?

Consumer Price Index หรือ CPI ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคใช้จ่ายเป็นประจำโดยแบ่งประเภทสินค้าและบริการออกเป็น 8 หมวดหมู่ ดังนี้  

1. หมวดหมู่อาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (Food and Non-alcoholic beverages) 

2. หมวดหมู่เครื่องนุ่งห่มและรองเท้า (Apparel)

3. หมวดหมู่เคหสถาน (Housing)

4. หมวดหมู่การตรวจรักษาและบริการส่วนบุคคล (Medical and Personal Services)

5. หมวดหมู่พาหนะ การขนส่ง และการสื่อสาร (Transportation and Communication) 

6. หมวดหมู่การบันเทิงการอ่าน การศึกษา และการศาสนา (Entertainment and Education)

7. หมวดหมู่ยาสูบและเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์ (Tobacco and Alcoholic beverages)

8. หมวดหมู่อื่น ๆ ที่ไม่ใช่อาหาร และเครื่องดื่ม (Other expenses non-food and non-beverages)

CPI และ Core CPI แตกต่างกันอย่างไร ?

อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า CPI คือดัชนีราคาผู้บริโภค ใช้ในการวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการที่ผู้บริโภคจับจ่ายเป็นประจำที่แบ่งประเภทสินค้าและบริการออกเป็น 8 หมวด ซึ่ง Core CPI หรือ “ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน” คืออัตราการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป ที่ตัดสินค้าในหมวดอาหารสดและพลังงานออก เนื่องจากเป็นหมวดที่มีความเคลื่อนไหวขึ้นลงตามฤดูกาล และอยู่นอกเหนือการควบคุมของนโยบายการเงิน เหลือแต่รายการสินค้าที่ราคาเคลื่อนไหวตามกลไกตลาด

ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่า CPI 

1. ต้นทุนการผลิต (Cost)

ต้นทุนการผลิตที่เปลี่ยนแปลงเนื่องจากว่าราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง

2. ความต้องการสินค้าและบริการ (Demand)

ความต้องการสินค้าและบริการที่เปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงจากผู้บริโภค

3. การใช้จ่ายของรัฐบาลและการเก็บภาษี (Fiscal Policy) 

การใช้จ่ายต่าง ๆ ของรัฐบาลที่อาจส่งผลทำให้โครงสร้างต้นทุนของธุรกิจเปลี่ยนไป และส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าและบริการ

CPI มีผลกระทบอย่างไรต่อตลาด Forex ?

หากว่าค่า CPI ออกมาสูงแสดงว่า เงินเฟ้อมีอัตราที่สูงอยู่ ณ ขณะนั้น ส่งผลให้ธนาคารกลางจำเป็นที่จะต้องดึงเงินออกจากระบบเศรษฐกิจเพื่อให้อัตราดอกเบี้ยชะลอตัวลง โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนี้เอง ที่มีผลกระทบต่อค่าเงินโดยตรง ซึ่งก็แปลว่าจะกระทบต่อตลาด Forex โดยตรงด้วยเช่นกัน ในทางกลับกันถ้าหาก CPI อยู่ในระดับต่ำ ธนาคารกลางมักจะใช้นโยบายผ่อนคลาย และมีการปรับอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจส่งผลให้แนวโน้มเศรษฐกิจดีขึ้น และทำให้ตลาดหุ้นมีโอกาสตอบรับในเชิงบวก

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ CPI 

Q : CPI ย่อมาจากอะไร ?

A : CPI ย่อมาจาก “Consumer Price Index” ซึ่งมีคำเรียกในไทยว่า “ดัชนีราคาผู้บริโภค” 

Q : CPI y/y และ CPI m/m แตกต่างกันอย่างไร ?

A : CPI y/y คือ ค่า CPI ของปีเฉลี่ยรวมกัน ส่วนค่า CPI m/m คือ ค่า CPI รายเดือน

Q : CPI มีผลกับทองคำอย่างไร ?

A : หากว่าค่า CPI ออกมาสูง จะทำให้ธนาคารกลางต้องปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อลง และจะกดดันให้ราคาทองคำร่วงลง เนื่องจากว่านักลงทุนจะโยกเงินไปลงทุนในพันธบัตรที่มีผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ย เพื่อลดค่าเสียโอกาสในการทำกำไร เนื่องจากว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีการตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ย ในทางกลับกันหากว่า ค่า CPI ออกมาต่ำ นักลงทุนจะโยกเงินจากพันธบัตรมาลงในทองคำแทน และหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น

บทความที่เกี่ยวข้องกับ CPI

• เทียบให้ชัด! ข่าว Forex สำคัญอย่างไร? Indicator ใช้อันไหนดีที่สุด?
• 5 ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำที่นักลงทุนไม่ควรพลาด! ปี 2023
• FOMO คืออะไร? อาการที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่เป็นกันแต่ไม่รู้ตัว!
• ข่าว Forex ที่สำคัญมีอะไรบ้าง มีความสำคัญอย่างไรในการเทรด Forex

สรุป CPI 

CPI ย่อมาจาก Consumer Price Index หรือดัชนีราคาผู้บริโภค เป็นดัชนีที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าและบริการทั้งในรายปี และรายเดือน เพื่อที่จะได้ทราบค่า “เงินเฟ้อ” ณ ขณะนั้น หากว่าเงินเฟ้อออกมาสูงกว่าเป้าหมายธนาคารกลางจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่พอดี แต่หากว่าเงินเฟ้อออกมาต่ำกว่าเป้าหมายธนาคารกลางจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อเพิ่มอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่พอดี นอกจากนี้ CPI ยังสามารถที่จะใช้เพื่อที่จะได้ปรับค่าแรงต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับอัตราเงินเฟ้อ ณ ขณะนั้นได้อีกด้วย

Source : Traderwithauntie