List of content

    ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) คืออะไร ? สำคัญอย่างไรกับนักลงทุน


    ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) คืออะไร ? สำคัญอย่างไรกับนักลงทุน

    ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินที่ถูกใช้แลกเปลี่ยนมากที่สุด ดังนั้น จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกการขยับขึ้นลงของค่าเงินดอลลาร์จะส่งผลกระทบต่อผู้คนจำนวนมาก เพราะฉะนั้น หากต้องการวัดค่าเงินดอลลาร์จึงต้องมีหน่วยวัดที่ได้มาตรฐานและแม่นยำ ซึ่ง “ดัชนีดอลลาร์” ถือเป็นเครื่องมือที่ได้รับการพัฒนามาเพื่อการนี้ แต่มันคืออะไร, สำคัญอย่างไร, อ่านค่าอย่างไร แล้วนักลงทุนจำเป็นต้องรู้หรือไม่ ไปติดตามกันครับ

     

    ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) คืออะไร? 

     

    ดัชนีดอลลาร์ (U.S. Dollar Index หรือ Dollar Index: DX) คือ เครื่องมือที่ใช้แสดงมูลค่าโดยรวมของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ ของโลก ซึ่งจัดทำโดย ICE Data Indices บริษัทในเครือของ Intercontinental Exchange (ICE) ได้รับการพัฒนาโดยธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในปี 1973 หลังจากระบบ Bretton Woods ล่มสลาย เพื่อใช้วัดความเปลี่ยนแปลงของค่าเงินดอลลาร์ และถ่วงน้ำหนักค่าเงินดอลลาร์กับสกุลเงินหลักอีก 6 สกุลครับ

     

    ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) มีสกุลเงินอะไรบ้าง

     

    สกุลเงินหลัก 6 สกุล ในตะกร้าเงินที่เป็นตัวเปรียบเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ได้แก่

    • ยูโร (EUR) ในสัดส่วน 57.6%

    • เยนญี่ปุ่น (JPY) ในสัดส่วน 13.6%

    • ปอนด์อังกฤษ (GBP) ในสัดส่วน 11.9%

    • ดอลลาร์แคนาดา (CAD) ในสัดส่วน 9.1%

    • โครนาสวีเดน (SEK) ในสัดส่วน 4.2%

    • ฟรังก์สวิส (CHF) ในสัดส่วน 3.6%

    โดยสกุลเงินที่นำมาเปรียบเทียบนั้น ล้วนเป็นประเทศคู่ค้าหลักที่มีความสำคัญต่อสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ดี ข้อมูลชุดดังกล่าวเป็นข้อมูลตั้งแต่ปี 1999 แตกต่างจากปัจจุบันที่ Top 6 ประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ มีเม็กซิโก, จีน และเยอรมนี เข้ามาด้วย แต่สกุลเงินเปโซเม็กซิโก (MXN), หยวนจีน (CNY) และมาร์คเยอรมัน (DEM) กลับไม่ได้อยู่ในตะกร้าดังกล่าวครับ

    ดังนั้น ดัชนีดอลลาร์ในปัจจุบันจึงไม่สามารถสะท้อนการค้าของสหรัฐฯ ได้อย่างแม่นยำนัก ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่า ในอนาคตจะมีการปรับตะกร้าเงินหรือไม่และเมื่อไหร่ครับ

     

    ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) คืออะไร นักลงทุนต้องรู้หรือไม่?

    รายชื่อประเทศที่สหรัฐฯ มีการนำเข้ามากที่สุด

    รูปภาพจาก CNN

     

    ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) คืออะไร นักลงทุนต้องรู้หรือไม่?

    รายชื่อประเทศที่สหรัฐฯ มีการส่งออกมากที่สุด

    รูปภาพจาก CNN

    ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) และดัชนีดอลลาร์ถ่วงน้ำหนัก (Trade Weighted Dollar Index) แตกต่างกันอย่างไร 

     

    ดัชนีดอลลาร์ (US Dollar Index : DXY) เป็นดัชนีที่ใช้แสดงมูลค่าโดยรวมของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเปรียบเทียบกับ 6 สกุลที่เป็น “คู่ค้าหลัก” กับอเมริกา ประกอบไปด้วยสกุลเงินยูโร, สกุลเงินเยน, สกุลเงินปอนด์, สกุลเงินดอลลาร์แคนาดา, สกุลเงินโครนาสวีเดนและสกุลเงินฟรังก์สวิส ซึ่งอยู่ภายใต้การดำเนินงานของ Intercontinental Exchange (ICE) 

    แต่ดัชนีดอลลาร์ถ่วงน้ำหนัก (Trade Weighted Dollar Index) เป็นดัชนีดอลลาร์ที่จัดทำขึ้นโดย FED ซึ่งจัดทำเพื่อวัดมูลค่าของเงินดอลลาร์ให้มีความแม่นยำและเป็นปัจจุบันมากที่สุด ซึ่งจุดแตกต่างระหว่าง 2 ดัชนีนี้จะอยู่ที่ “จำนวนสกุลเงิน” ที่นำมาคำนวณในดัชนี โดยดัชนีดอลลาร์จะใช้ 6 สกุลเงินและดัชนีดอลลาร์ถ่วงน้ำหนักจะใช้ 26 สกุลเงินครับ

     

    ความแตกต่างระหว่าง USDX และ DXY และ DX

     

    หลาย ๆ ครั้ง เราจะเห็นตัวย่อของดัชนีดอลลาร์ที่หลากหลาย ทั้ง USDX, DXY และ DX แต่มันเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร?

    • USDX คือ คำที่ใช้เรียกดัชนีดอลลาร์ดั้งเดิม

    • DXY คือ สัญลักษณ์สำหรับผู้ใช้ Bloomberg Terminal และสำนักข่าวบางแห่ง

    • DX คือ สัญลักษณ์ที่ ICE Exchange ใช้เรียกค่าดัชนีดอลลาร์

    ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็น USDX, DXY หรือ DX ก็สามารถใช้เรียกดัชนีดอลลาร์ได้ ขึ้นอยู่กับความชอบและความสะดวกได้เลยครับ

     

    ดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ดูยังไง ?

    ดัชนีดอลลาร์มีการกำหนดค่าไว้ที่ 100 จุด ซึ่งมีการอ่านค่าและความหมายดังต่อไปนี้ครับ

    • หากดัชนีสูงกว่า 100 จุด แสดงว่า ขณะนั้นเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ในตะกร้าเงิน

    • หากดัชนีต่ำกว่า 100 จุด แสดงว่า ขณะนั้นเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ในตะกร้าเงิน

    การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของดัชนีดอลลาร์แต่ละจุดนั้น บ่งชี้ถึงระดับการแข็งค่าและอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ กล่าวคือ หากดัชนีดอลลาร์อยู่ที่ 110 จุด หมายความว่า เงินดอลลาร์แข็งค่า 10% และหากดัชนีดอลลาร์อยู่ที่ 85 จุด หมายความว่า เงินดอลลาร์อ่อนค่า 15% เป็นต้นครับ

    สูตรการคำนวณดัชนีดอลลาร์

    การคำนวณดัชนีดอลลาร์สามารถทำได้โดยแทนค่าจากสูตรดัชนีถ่วงน้ำหนักนี้ครับ

    สูตรคำนวณดัชนีดอลลาร์

    • ค่า 50.14348112 คือ ค่าเริ่มต้นที่ทำให้ดัชนีเริ่มที่ 100 จุด 
    • กรณี USD เป็น Quote currency เลขยกกำลังที่นำมาใช้คำนวณจะติดลบ 

     

    ความสำคัญของดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index)

    ความสำคัญของดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index)

    เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ถือเป็นสกุลเงินหลักที่ใช้กันอย่างแพร่หลายของโลก ซึ่งการเปลี่ยนแปลงไปของค่าเงินดอลลาร์นี้จะส่งผลต่อเศรษฐกิจและตลาดการเงินอย่างแน่นอน ดังนั้นดัชนีดอลลาร์จึงเป็นตัวช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์มูลค่าโดยรวมของสกุลเงินดอลลาร์ วางแผนการลงทุน ประเมินความเสี่ยงและเป็นตัวบ่งชี้แนวโน้มในตลาดต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดีครับ

    ใช้เป็นตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ

    ดัชนีดอลลาร์ถูกใช้เป็นตัวชี้วัดการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์เป็นค่าเงินที่มีอิทธิพลต่อตลาดเงินและเศรษฐกิจทั่วโลก โดยการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินดอลลาร์จะช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์ทิศทางค่าเงินและทิศทางตลาดในอนาคตต่อไปได้ เพราะดอลลาร์เป็นสกุลเงินที่ถูกใช้แลกเปลี่ยนมากที่สุดในโลกและใช้ในการค้าและการลงทุน ดังนั้นหากเงินดอลลาร์มีการเปลี่ยนแปลงไป การทำธุรกรรมที่ใช้เงินดอลลาร์ก็จะได้รับผลกระทบและอาจส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจภายในประเทศนั้น ๆ ต่อไปได้ครับ

    สัญญาณการซื้อขายใน Forex

    ดัชนีดอลลาร์ยังสามารถใช้เป็นสัญญาณในการซื้อขาย Forex ได้ เทรดเดอร์หลายคนใช้ดัชนีดอลลาร์เพื่อหาแนวรับ – แนวต้าน และวางแผนการเทรดของตัวเอง ซึ่งดัชนีดอลลาร์สามารถประยุกต์ใช้ได้กับทั้งคู่เงินที่มีความสัมพันธ์แบบแปรผันตรง และคู่เงินที่มีความสัมพันธ์แบบแปรผกผันครับ

    เครื่องมือบริหารความเสี่ยง

    ดัชนีดอลลาร์ถือเป็นเครื่องมือสำหรับนักลงทุนที่ใช้ในการวิเคราะห์และประเมินความเสี่ยงจากการลงทุน เนื่องจากสกุลเงินดอลลาร์ถือเป็นสกุลเงินหลักที่ใช้ในตลาดสินทรัพย์ต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลงของค่าเงินจึงมีผลต่อการลงทุนของนักลงทุนโดยตรงครับ 

     

    ความสัมพันธ์ของดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) กับสินทรัพย์ทางการเงินต่าง ๆ

     ดัชนีดอลลาร์สัมพันธ์กับสินทรัพย์ทางการเงินต่าง ๆ

    ดัชนีดอลลาร์มีความสัมพันธ์กับสินทรัพย์ทางการเงินต่าง ๆ ในรูปแบบที่แตกต่างกัน ดังนี้

    • ความสัมพันธ์แบบแปรผันตรง คือ สินทรัพย์ที่มีการเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกับดัชนีดอลลาร์ เช่น หุ้นโลก, หุ้นสหรัฐฯ และคู่เงินบางคู่ (กรณี USD เป็น Base เช่น USDJPY, USDCAD และ USDGBP เป็นต้น)

    • ความสัมพันธ์แบบแปรผกผัน คือ สินทรัพย์ที่มีการเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้ามกับดัชนีดอลลาร์ เช่น หุ้นตลาดเกิดใหม่, ทองคำ, น้ำมัน, สินค้าโภคภัณฑ์ และคู่เงินบางคู่ (กรณี USD เป็น Quote เช่น EURUSD, AUDUSD และ NZDUSD เป็นต้น)

    ความสัมพันธ์ของดัชนีดอลลาร์กับสินทรัพย์ทางการเงินต่าง ๆ ในตัวอย่างข้างต้นจะทำให้เราทราบทิศทางและการคาดการณ์เบื้องต้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุนแน่นอน แต่ไม่ควรลืมที่จะศึกษาดัชนีอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการลงทุนและบริหารความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการลงทุนครับ

     

    ปัจจัยที่ส่งผลต่อดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) 

    ปัจจัยที่ส่งผลต่อดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) 

    ดัชนีดอลลาร์มีความเปลี่ยนแปลงทั้งขึ้นและลงอย่างรวดเร็ว โดยเคยขึ้นสู่ระดับสูงสุดตลอดกาล (All Time High) ที่ 165 จุด ในปี 1984 และต่ำสุด (All Time Low) ที่ 70 จุด ในปี 2007 ซึ่งได้รับผลกระทบจากปัจจัยดังต่อไปนี้ครับ

    • อุปสงค์และอุปทาน

    ปัจจุบัน ดอลลาร์สหรัฐถือเป็นสกุลเงินที่ถูกใช้แลกเปลี่ยนมากที่สุดในโลก แม้แต่การค้าระหว่างประเทศก็ใช้เงินดอลลาร์ในการทำธุรกรรม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความต้องการซื้อ (อุปสงค์) และความต้องการขาย (อุปทาน) ของเงินดอลลาร์ได้อย่างชัดเจน ซึ่งความต้องการนี้เองที่ส่งผลต่อค่าเงินครับ เพราะฉะนั้น หากความต้องการลดลง ค่าเงินก็จะลดลงตามไปด้วยครับ

    • เศรษฐกิจและนโยบายการเงินของสหรัฐฯ

    เนื่องจากสหรัฐฯ ถือเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจแข็งแกร่งมากประเทศหนึ่งของโลก การที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ดำเนินไปในทิศทางใดก็จะส่งผลต่อประเทศอื่น ๆ ครับ ดังนั้น ตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จึงเป็นที่จับตามองจากนักลงทุน, ผู้ประกอบการ รวมถึงผู้คนทั่วโลกที่ได้รับผลกระทบเป็นพิเศษครับ

    นอกจากนี้ ทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังส่งผลต่อนโยบายการเงินและการปรับอัตราดอกเบี้ยของ Fed ในการรักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจและค่าเงินสหรัฐฯ ซึ่งนโยบายดังกล่าวจะกระทบต่อค่าเงิน, อัตราดอกเบี้ย และการทำธุรกรรมทั่วโลกด้วย ดังนั้น ดัชนีดอลลาร์ที่เป็นตัวชี้วัดค่าเงินสหรัฐฯ จึงได้รับผลกระทบโดยตรงนั่นเองครับ

    • ค่าเงินที่ใช้ถ่วงดุลดอลลาร์สหรัฐ

    อย่างที่ทราบกันว่า ดัชนีดอลลาร์มีค่าเงิน 6 สกุลในตะกร้าที่ใช้ถ่วงดุลน้ำหนัก ซึ่งประกอบไปด้วย ยูโร (EUR), เยนญี่ปุ่น (JPY), ปอนด์อังกฤษ (GBP), ดอลลาร์แคนาดา (CAD), โครนาสวีเดน (SEK) และฟรังก์สวิส (CHF) ซึ่งหากค่าเงินเหล่านี้มีการปรับตัว ไม่ว่าจะแข็งค่าหรืออ่อนค่า ล้วนส่งผลต่อทิศทางดอลลาร์ได้ ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงินหลัก ๆ ก็คือ เศรษฐกิจและนโยบายการเงินภายในประเทศนั้น ๆ ครับ

    • ความเสี่ยงในตลาดโลก

    นอกจากปัจจัยในข้างต้นแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม คือ สถานะสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ของค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์เป็นสกุลเงินหลักของโลก ดังนั้น มันจึงกลายเป็นหลุมหลบภัยชั้นดีสำหรับนักลงทุนในขณะที่ตลาดโลกเผชิญความเสี่ยงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติเศรษฐกิจ, ความขัดแย้ง หรือสงคราม ซึ่งส่งผลต่อความต้องการซื้อขายค่าเงินดอลลาร์ครับ

     

    ลงทุนดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) อย่างไร?

    ลงทุนดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) อย่างไร?

    หากคุณต้องการลงทุนในความเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์ คุณสามารถลงทุนได้ผ่านดัชนีดอลลาร์ ซึ่งมี 3 วิธีการ ดังนี้ครับ

     

    1. เงินดอลลาร์

     

    การลงทุนลักษณะนี้เป็นการซื้อขายเงินดอลลาร์โดยตรง ซึ่งสามารถแลกเปลี่ยนได้ผ่านธนาคาร, ร้านแลกเงิน หรือดีลเลอร์ นับเป็นการแลกเปลี่ยนเงินตราจริง ๆ ครับ

    ข้อดี

    • ได้ถือและเป็นเจ้าของเงินดอลลาร์โดยตรง

    • นำไปจับจ่ายใช้สอยได้

    • ได้เงินทันทีเมื่อทำการแลกเปลี่ยน

    ข้อเสีย

    • ลงทุนยาก ต้องหาร้านแลกเงิน

    • ต้องใช้เงินทุนค่อนข้างเยอะ

    • ทำกำไรได้น้อย

    • ทำกำไรได้เพียงช่วงเงินบาทอ่อนค่า

    • เรทอัตราแลกเปลี่ยนสูงมาก

    2. กองทุนตลาดเงินต่างประเทศ

     

    การลงทุนลักษณะนี้เป็นการลงทุนผ่านกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนในตลาดเงินต่างประเทศ ซึ่งสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) บนแอปพลิเคชันครับ

    ข้อดี

    • ใช้เงินทุนน้อย 

    • ซื้อขายง่ายผ่านช่องทางออนไลน์

    • มีโอกาสได้รับผลตอบแทนและสิทธิประโยชน์ที่หลากหลาย

    ข้อเสีย

    • ทำกำไรได้น้อย 

    • ไม่เหมาะกับการลงทุนในระยะสั้น เพราะอาจติดลบได้

    • ซื้อขายได้เฉพาะวันทำการในช่วงเวลาที่กำหนด

    • ได้รับเงิน/ หน่วยลงทุนภายใน 3-5 วันทำการ แล้วแต่นโยบายกองทุน

     

    3. ตราสารอนุพันธ์ประเภท CFD

     

    การลงทุนลักษณะนี้เป็นการลงทุนผ่านตราสารอนุพันธ์ประเภท CFD ที่อนุญาตให้ทำกำไรจากส่วนต่างของราคาโดยที่ไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์เหล่านั้นจริง ๆ ครับ หรือก็คือ การเทรดผ่านโบรกเกอร์อย่างที่เราเทรดกันอยู่ทุกวันนี้ครับ

    ข้อดี

    • ใช้เงินทุนน้อย

    • ซื้อขายง่ายผ่านช่องทางออนไลน์

    • สามารถใช้ Leverage เพื่อเพิ่มกำลังซื้อขายได้

    • ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง

    • สเปรดต่ำ

    ข้อเสีย

    • นักลงทุนไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้นจริง ๆ

    • ความเสี่ยงสูง

    • ไม่เหมาะกับการลงทุนระยะยาว บางโบรกเกอร์มีค่าธรรมเนียมในการถือออเดอร์ข้ามคืน (Swap)

    • ขั้นต่ำและระยะเวลาในการฝากและถอนเงินขึ้นอยู่กับแต่ละโบรกเกอร์ ส่วนมากจะอยู่ที่ 1 วันทำการ

     

    คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index)

     

    Dollar Index ดูยังไง ?

    > ดูจากการเปลี่ยนแปลงของตัวเลขดัชนีโดยเทียบกับวันก่อนหน้า ยกตัวอย่างเช่น วันที่ 24 มกราคม 2567 ดัชนีดอลลาร์อยู่ที่ 99.72 จุด เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าอยู่ที่ 96.25 หมายความว่าค่าเงินดอลลาร์มีการปรับตัวแข็งค่าขึ้นจากเมื่อวานแต่ยังคงอ่อนค่าอยู่เมื่อเทียบกับดัชนีตั้งต้นที่ 100 จุด

    DXY เทียบกับสกุลเงินอะไร

    > DXY หรือ Dollar Index คือดัชนีดอลลาร์ที่เทียบกับสกุลเงิน 6 สกุลคือสกุลเงินยูโร, สกุลเงินเยน, สกุลเงินปอนด์, สกุลเงินดอลลาร์แคนาดา, สกุลเงินโครนาสวีเดนและสกุลเงินฟรังก์สวิสครับ

     


    บทความที่เกี่ยวข้องกับดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) 

    PPI คืออะไร ? ส่งผลกับตลาด Forex ในแง่มุมใดบ้าง

    PMI คืออะไร ? สิ่งที่เทรดเดอร์สายปัจจัยพื้นฐานต้องรู้ !

    CPI คืออะไร ? เกี่ยวข้องอย่างไรกับตลาด Forex

    Unemployment Claim คืออะไร มีส่วนสำคัญอย่างไรกับตลาด Forex ?

    เทียบให้ชัด! ข่าว Forex สำคัญอย่างไร? Indicator ใช้อันไหนดีที่สุด?


    สรุปเกี่ยวกับดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) 

    โดยสรุป ดัชนีดอลลาร์ถือเป็นเครื่องมือที่พัฒนาเพื่อวัดมูลค่าของเงินดอลลาร์ โดยการอ้างอิงกับสกุลเงินสำคัญอื่น ๆ อีก 6 สกุล ซึ่งค่าที่วัดได้นั้นจะถูกนำไปใช้คาดการณ์ทิศทางค่าเงิน, ทิศทางตลาด ตลอดจนใช้เป็นสัญญาณในการซื้อขายครับ ดังนั้น นักลงทุนจึงควรติดตามและใส่ใจดัชนีดังกล่าว 

    อย่างไรก็ดี ทุกท่านอาจจะนำดัชนีดอลลาร์ไปประยุกต์ใช้กับเครื่องมืออื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และอย่าลืมป้องกันความเสี่ยงในการลงทุนกันด้วยนะครับ

     


    ⚠️ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

     

    หากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม

    สามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับ Forex ได้ทางเว็บไซต์ www.thaiforexreview.com

    ติดตามความเคลื่อนไหวและการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก Thaiforexreview

    ติดตามข่าวสารการลงทุนและบทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์ได้ที่ Forex Analysis

    อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ Blogs

    อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมได้ที่ Top Brokers

    forex
    investing

    แนะนำโบรกเกอร์สำหรับคุณ

    tfn
    ข้อจำกัดด้านความปลอดภัย

    Thaiforexreview.com จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ
    ที่เกิดจากการพึ่งพาข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้ รวมถึงข่าวการตลาด การวิเคราะห์ สัญญาณการซื้อขาย และบทวิจารณ์โบรกเกอร์ Forex ข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์นี้อาจไม่เป็นปัจจุบัน และการวิเคราะห์เป็นความคิดเห็น ของ Thaiforexreview.com ไม่มีการการันตีใด ๆ

    การซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ก่อนตัดสินใจซื้อขาย Forex หรือใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ ควรพิจารณาวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เรามุ่งเน้นเพื่อเสนอข้อมูล ที่สำคัญเกี่ยวกับโบรกเกอร์ทั้งหมดที่เราตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด

    ความรู้ Forex

    Forex

    Gold

    Beginner

    Investing

    ข้อจำกัดด้านความปลอดภัย

    Thaiforexreview.com จะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใด ๆ
    ที่เกิดจากการพึ่งพาข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้ รวมถึงข่าวการตลาด การวิเคราะห์ สัญญาณการซื้อขาย และบทวิจารณ์โบรกเกอร์ Forex ข้อมูลที่อยู่ในเว็บไซต์นี้อาจไม่เป็นปัจจุบัน และการวิเคราะห์เป็นความคิดเห็น ของ Thaiforexreview.com ไม่มีการการันตีใด ๆ

    การซื้อขายสกุลเงินในตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง ก่อนตัดสินใจซื้อขาย Forex หรือใช้เครื่องมือทางการเงินอื่น ๆ ควรพิจารณาวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และความเสี่ยงอย่างรอบคอบ เรามุ่งเน้นเพื่อเสนอข้อมูล ที่สำคัญเกี่ยวกับโบรกเกอร์ทั้งหมดที่เราตรวจสอบเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องที่สุด

    © Copyright Thaiforexreview 2023. All rights reserved