List of content
Day Trade คืออะไร? มีกลยุทธ์การเทรดอย่างไร
สำหรับคนที่เทรด Forex มาสักพักแล้ว คงจะเคยได้ยินเรื่องของประเภทการเทรด Forex มาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการเทรดแบบ Scalping หรือว่า Swing Trade แต่จะมีอยู่รูปแบบหนึ่งที่เป็นที่นิยมและแพร่หลายไม่แพ้การเทรดแบบ Scalping นั่นก็คือ Day Trade ในวันนี้ Thaiforexreview จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ Day Trade ว่าคืออะไร? เหมาะกับใคร? และมีข้อดีอย่างไร ?
Day Trade หมายถึงการซื้อขายหรือการเทรด Forex จบภายในวันเดียว หมายความว่าเมื่อนักเทรดเปิดคำสั่งซื้อ Buy หรือ Sell ในตลาด Forex นักเทรดเหล่านี้จะไม่เปิดคำสั่งซื้อทิ้งไว้ข้ามวัน และจะปิดคำสั่งซื้อภายในหนึ่งวัน โดยหวังผลกำไรประมาณ 500-1,000 จุดต่อการเทรด ขึ้นอยู่กับความผันผวนของตลาดในแต่ละวัน หลายคนอาจจะเรียกว่านักเทรดระยะสั้นหรือนักเก็งกำไรระยะสั้น ซึ่งการเทรดในรูปแบบ Day Trade อาจจะเหมาะสำหรับตลาด Forex มากกว่าตลาดอื่น ๆ เนื่องจากว่าตลาด Forex มีความผันผวนสูงมาก การเทรดแบบ Day Trade จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มนักเทรดในตลาด Forex
สำหรับคนที่เทรด Forex จะทราบกันดีว่าเทคนิคในการเทรด Forex นั้น มีอยู่มากมายหลายรูปแบบ โดยเทคนิคที่จะเลือกใช้นั้นขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดในแต่ละวัน โดยวันนี้จะมาแนะนำเทคนิคพื้นฐานสำหรับการเทรดแบบ Day Trade
1. ตีกรอบแนวรับ-แนวต้าน
การตีกรอบแนวรับ-แนวต้านนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเทรดไม่ว่าจะเป็นตลาดใด การตีกรอบแนวรับ-แนวต้านก็ถือเป็นเทคนิคพื้นฐานที่เทรดเดอร์จำเป็นต้องเข้าใจก่อนเริ่มเทรด เนื่องจากว่า ถ้าเรารู้ว่าแนวรับ-แนวต้านของราคาดังกล่าวแล้ว นักเทรดจะสามารถวิเคราะห์จุดที่อาจจะเป็นจุดกลับตัวได้ง่ายมากขึ้น โดยอาจจะใช้ Price Action เข้ามาช่วยสำหรับนักเทรดที่ชอบเทรดกราฟเปล่า แต่ให้คำนึงเอาไว้ว่า แนวรับ-แนวต้านเป็นเพียงการคาดการณ์ของตัวเองเท่านั้น ราคาไม่ได้มีการกลับตัวที่แนวรับ-แนวต้านที่เราตีกรอบไว้อย่างแน่นอน
2. หาสัญญาณ Divergence
การหาสัญญาณ Divergence สามารถหาได้จากอินดิเคเตอร์ประเภท Oscillator เช่น RSI, MACD หรือ Awesome Oscillator ซึ่งการเทรดด้วยสัญญาณ Divergence เป็นเรื่องที่ไม่แน่นอนสักเท่าไหร่ แต่หากว่านำมาใช้ร่วมกับสัญญาณอื่น ๆ อย่างเช่น แนวรับ-แนวต้าน Overbought-Oversold และรวมไปถึง Break Out ก็สามารถที่จะใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากว่าสัญญาณ Divergence เป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแนวโน้มในอนาคต แต่ยังมีข้อควรระวังสำหรับการใช้เทคนิคนี้ เนื่องจากว่าสัญญาณ Divergence ที่เกิดขึ้น ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าราคาจะมีการเปลี่ยนแปลงแนวโน้มเมื่อใด หรืออาจจะไม่เปลี่ยนแปลงเลยก็ได้เช่นกัน
3. ดูการเกิด Break Out
เทคนิค Break Out เป็นเทคนิคที่นิยมมากสำหรับการเทรดแบบ Day Trade โดยมีพื้นฐานมาจากการตีกรอบแนวรับ-แนวต้าน การ Break Out ที่เกิดขึ้นเป็นการทะลุออกจากกรอบแนวรับ-แนวต้านนั่นเอง ซึ่งเมื่อใดที่ราคาเกิด Break Out ออกจากแนวรับ-แนวต้าน ก็มีโอกาสที่ราคาจะวิ่งไปทิศทางนั้น แต่ก็ยังมีข้อควรระวังสำหรับการเทรดด้วย Break Out เช่นกัน เนื่องจากว่าตลาดนั้นไม่สามารถที่จะคาดเดาได้ 100% มีหลาย ๆ ครั้งที่ราคาได้เกิดการ Break Out แต่กลับไม่ได้เป็นไปตามเทคนิคของ Break Out บางครั้งราคาอาจจะ Break Out ออกมา แต่ก็อาจจะกลับตัวไปอีกทางก็ได้เช่นกัน ซึ่งสิ่งนี้เรียกว่า False Break Out หรือ Liquidity Sweep เป็นเทคนิคการทำราคาของรายใหญ่ หรือ Market Maker ที่ดันให้ราคาหลุดแนวรับหรือแนวต้าน เพื่อทำกำไรก่อนกลับตัวไปในอีกทิศทางนั่นเองครับ
4. คำนวณความเสี่ยงที่ยอมรับได้
เรื่องที่สำคัญที่สุดในการเทรด การคำนวณความเสี่ยง หากต้องการที่จะให้พอร์ตของคุณอยู่รอดตลอดทั้งวัน คุณจำเป็นที่จะต้องคำนวณความเสี่ยงที่ยอมรับได้ในแต่ละการเทรด อาจจะทำการกำหนดเป็นตัวเลขคร่าว ๆ ว่าเสียได้ 5% ต่อการเทรด สมมติว่ามีทุนอยู่ $1000 ยอมขาดทุนต่อการเทรดได้ 5% เท่ากับว่าคุณเสียได้ $50 ต่อการเทรดนั่นเอง ซึ่งเทคนิคนี้จะทำให้นักเทรดทราบถึงปริมาณเงินที่จะเสียไปต่อการเทรด และสามารถเก็บสถิติในการเทรดได้เป็นระบบมากขึ้น เพื่อที่จะนำไปพัฒนาการเทรดต่อไปนั่นเองครับ
อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่า Day Trade เป็นกลยุทธ์การเทรดจบภายในหนึ่งวันเท่านั้น ซึ่งถ้าถามว่า กลยุทธ์นี้เหมาะกับใคร ? คำตอบคือ เหมาะกับคนที่มีเวลาในการเฝ้าหน้ากราฟอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากว่า การเทรดรูปแบบนี้ จำเป็นจะต้องมองหาจุดเข้าอยู่ตลอดเวลา ซึ่งการเทรดจะเป็นการเทรดระยะสั้น ๆ ตั้งแต่ 1-3 ชม. ขึ้นอยู่กับความผันผวนของราคาของตลาด
การเทรดแบบ Day Trade เป็นกลยุทธ์การเทรดในระยะสั้น หมายความว่า เทรดเดอร์จะต้องหาจังหวะการเทรดบ่อยครั้งใน 1 วัน เพื่อทำไรที่น่าพอใจหรือทำให้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในวันนั้น ซึ่งจะส่งผลไปถึงเรื่องประสิทธิภาพในการตัดสินใจของเทรดเดอร์ รวมไปถึงสภาพจิตใจด้วยเช่นกัน ให้นึกภาพว่า หากวันหนึ่ง เทรดเดอร์ทำการเทรดตลอดทั้งวัน แต่ภาพรวมยังคงขาดทุน การเทรดต่อไปเรื่อย ๆ อาจจะสร้างนิสัยเสียให้กับเทรดเดอร์ เช่น การพยายามแก้แค้นตลาดหรือการ Over Lot เพื่อหวังกำไรทบการขาดทุน เป็นต้น
ข้อควรระวังต่อมา คือ ความผันผวนของตลาดจากปัจจัยต่าง ๆ ความผันผวนเป็นสิ่งที่น่าท้าท้ายสำหรับเทรดเดอร์หลาย ๆ คน แต่หลาย ๆ ความผันผวนก็กลายเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์พึงจะต้องระมัดระวัง เนื่องจากว่า ตลาดสามารถเปลี่ยนทิศทางได้ตลอดเวลา จากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สถานการณ์ทางการเมือง, ภัยพิบัติ, หรือแม้คำพูดของใครบางคนที่มีอิทธิพลอย่างมาก ซึ่งความผันผวนนี้อาจจะทำให้เทรดเดอร์เข้าใจว่า ทำไมการเทรดมันถึงยากมาก ๆ
ข้อดี
- มีเทคนิคการเทรดที่เหมาะกับช่วงเวลาที่หลากหลาย สามารถเลือกใช้ได้ตามสถานการณ์ของตลาดได้เป็นอย่างดี
- เป็นกลยุทธ์ที่สามารถทำกำไรได้ภายในระยะเวลาสั้น ๆ
- มีจังหวะราคาให้เทรดได้หลายจังหวะ
ข้อเสีย
- เป็นวิธีการเทรดที่ต้องใช้ความเสี่ยงค่อนข้างสูงเพื่อเพิ่มจำนวนกำไร
- เป็นวิธีการเทรดที่ค่อนข้างยาก เนื่องจาก เทรดเดอร์จะต้องเจอกับความผันผวนของตลาดที่เกิดจากหลายปัจจัย
- ต้องมีความรู้เกี่ยวกับการหาจุดเข้า อีกทั้งยังต้องคอยติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจอยู่ตลอดเวลา
หมายเหตุ : ข้อมูลข้างต้นเป็นข้อมูลจริงที่นำมาจากเว็บไซต์ของแต่ละโบรกเกอร์ โดยเปรียบเทียบกันเฉพาะประเภทบัญชี Standard เท่านั้น
การเทรด Forex นั้น เรื่องระเบียบวินัยเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก หากไม่มีวินัยในการเทรดแล้ว นักเทรดจะไม่สามารถเทรดตามระบบหรือแบบแผนที่ตัวเองวางเอาไว้ และอาจจะส่งผลให้ขาดทุนมหาศาลได้ แม้จะเป็นการเทรดแบบ Day Trade ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม การเทรด Forex ไม่มีใครที่จะสามารถเอาชนะตลาดได้ นักเทรดควรศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในตลาด Forex อยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะเอาตัวรอดให้ได้ในตลาด Forex อย่างมั่นคงและยั่งยืน
หากคุณมีความสนใจในเรื่องของการลงทุนเหมือนกันกับผม
สามารถติดตามความรู้เกี่ยวกับ Forex ได้ทางเว็บไซต์ www.thaiforexreview.com
ติดตามความเคลื่อนไหวและการประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ได้ทางเพจเฟซบุ๊ก Thaiforexreview
ติดตามข่าวสารการลงทุนและบทวิเคราะห์ฟอเร็กซ์ได้ที่ Forex Analysis
อ่านบทความสาระดี ๆ ได้ที่ Blogs
อ่านรีวิวโบรกเกอร์ยอดนิยมได้ที่ Top Brokers